www.patsiri.com

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

เทพเทวดา ลงมาฟังธรรม

มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงตามหาบัวท่านไปเยี่ยมพระอาจารย์ฝั้น และพักอยู่ที่นั่น ได้เห็น หลวงปู่มั่น ได้มาเยี่ยม หลวงปู่ฝั้น  ณ ที่นั้น หลวงปู่ฝั้น เอ่ยขึ้นว่าวันนี้ หอมอะไรนักหนา ธูปเทียนก็ไม่ใช่ แล้วหลวงปู่มั่นก็ ตอบ่วาใช่แล้ว ทำให้พระหลายองค์ไม่เข้าใจว่าหลวงปู่มั่นกับหลวงปู่ฝั้นพูดกันนั้นหมายความว่าอะไร ครั้นต่อมาหลวงตามหาบัวได้โอกาสจึงถามหลวงปู่มั่นว่า ที่ว่าหอมนั้นไม่ใช่ธูปไม่ใช่เทียน แล้วหอมอะไร หลวงปู่มั่นบอกหลวงตามหาบัวว่า หอมเพราะเทพเทวดาลงมาเฝ้าหลวงปูมั่นหลวงปู่ฝั้น เพื่อกราบเคารพพระอรหันต์ทั้งสององค์ และมารอฟังธรรม
อจินไตยไม่มีใครรู้ ว่าพระอรหันต์นั้น หอมศีลหอมธรรม ของพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นการหอมที่เทพเทวดา เคารพบูชา ผิดกับการหอมด้วยอาภรณ์ น้ำหอม ปรุ่งแต่ง ใส่เพชร พลอย ทองราคาแพง การหอมด้วยศีล ด้วยธรรม มีศีล มีคุณธรรม เป็นการหอมทวนลม ไปทั้งชาตินี้และชาติหน้า
ภัทรศิริ แสวง หลงศิริ

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

แสวงภัทรศิริ หลงศิริ: Writer's Block: Presto chango!

แสวงภัทรศิริ หลงศิริ: Writer's Block: Presto chango!: "Writer's Block: Presto chango! probiotic Herb excellent The results from the Kasetsart University, Kamphaeng Saen Campus, Thailand by Th..." mohjai my father gave me a herbals textbook to make the products for good health and beauty skin care ยาตำรับหมอจ๋าย สูตรแพทย์แผนไทย สมัยโบราณ สืบทอดกันต่อมาถึงลูกหลานเหลนโหลน ผลิตเป็นยาสมุนไพรไทยสามัญประจำบ้าน ทานง่ายไม่มีอันตราย บำรุงร่างกาย แก้ปวดเมื่อย แก้โรคลม บำรุงสมรรถภาพ ดูอ่อนกว่าวัย รักษาภายในฟิตกระชับ ระงับกลิ่น ประจำถิ่น มีกลิ่นสาปสาวดูรายละเอียดได้ที่ www.patsiri.com

แสวงภัทรศิริ หลงศิริ: สุนัขเกิดมา มีหลายสี แต่ไม่มี สิทธิ์เรียกร้องอะไรไ...

แสวงภัทรศิริ หลงศิริ: สุนัขเกิดมา มีหลายสี แต่ไม่มี สิทธิ์เรียกร้องอะไรไ...: "พระผู้เมตตา ช่วยเหลือหมา ไม่ให้อดตาย ท่านบอกว่าเขาก็มีปากมีท้อง ร้องหาอาหาร เพราะความหิวเหมือนคนเช่นกันท่านช่วยเหลือคนที่เลี้ยงหมา ปากเกร็ด..."

สุนัขเกิดมา มีหลายสี แต่ไม่มี สิทธิ์เรียกร้องอะไรได้

พระผู้เมตตา ช่วยเหลือหมา ไม่ให้อดตาย ท่านบอกว่าเขาก็มีปากมีท้อง ร้องหาอาหาร เพราะความหิวเหมือนคนเช่นกันท่านช่วยเหลือคนที่เลี้ยงหมา ปากเกร็ด 300-400 ตัวเดือนละเป็นแสนบาท แถมซื้อีที่ให้อีก หนึ่งไร่ ช่วยเหลือ คนเลี้ยงหมาที่ พุทธมณทลสาย สาม เลี้ยงหมา 100 กว่าตัว เดือนละสามหมื่น บาท ทั้งคนเลี้ยงหมา ทั้งหมาโชคดีมีบุญ ที่องค์ท่านหลวงตา เมตตา ต่อคนและสัตว์เหลือคณานับ และเมื่อท่านละสังขาร วานผู้ใจบุญได้อุดหนุน คนเลี้ยงหมา มีเมตตาเหมือนหลวงตา มหาบัว ความเมตตา คำจุลโลก องค์พระตถาคตได้ทรงโปรดประทานได้สอนไว้ในธรรมะ และละกกิเลส




วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

Writer's Block: Presto chango!

Writer's Block: Presto chango!
probiotic Herb excellent The results from the Kasetsart University, Kamphaeng Saen Campus, Thailand by Thai Traditional Herbal Massage selected to fermentation. Microbial species better help restore the digestive system. Immune system. Circulatory system. Internal organ systems. System, bone tendon Prevent cancer, diabetes, paralysis, etc., has more at the Ye. www.patsiri.com. plasiri@hotmail.com. 6628107832 0868030656.

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2554

loungta maha bou by patsiri

ปลั๊กประหยัดน้ำมัน: <a href="http://www.patsiri.com">www.patsiri.com</...: "pinklady for health and plug doctor save gasอ้างถึง: นิทานชาดก - ค้นหาด้วย Google (ดูบน Google Sidewiki)"
อัศจรรย์..อัครอรหันต์"หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน"
คุณอยู่ที่ >> หน้าหลักเว็บบอร์ด / มงคลพุทธวงศ์ / Detail ... Read 117748 , Reply 117

ถึงแม้ว่า จะเคยได้รู้ได้ยินได้ทราบถึงเรื่องราวแห่งอัจฉริยคุณและบุญญาบารมีอันยิ่งแห่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระธรรมวิสุทธิมงคลหรือที่รู้จักกันทั่วไปเป็นอย่างดีที่สุดในนาม"หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน" แห่งวัดป่าเกสรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) อ.เมือง จ.อุดรธานี มาเป็นเอนกปริยาย ด้วยระยะเวลานับเป็นทศวรรษ จนได้นำเสนอให้เป็นที่ล่วงรู้รับทราบกันทั่วไปอย่างตรงไปตรงมาและไม่มีปิดบังอำพรางใดๆทั้งโดยอนุโลมและปฏิโลม ตามควรแก่กาละและเทศะตลอดจนกุศลเหตุอันพิเศษที่จะพึงสอดแทรกเข้ามาตามวาระอันเหมาะสมโดยตลอด ด้วยเหตุที่ถือว่า "ความจริงก็คือความจริง" ไม่อาจลบเลือนดัดแปลงแก้ไขให้เป็นอื่นได้ เพื่อเป็นเครื่องเจริญศรัทธาและตอกย้ำปสาทะในองค์หลวงตาและบวรพระพุทธศาสนาให้หนักแน่นมั่นคงยิ่งขึ้นไป อันจะก่อให้เกิดเป็นมหาบุญและมหากุศลใหญ่ในฐาน"ปูชา จ ปูชนียานัง เอตัมมังคลมุตตมัง"และ"สัพพทานัง ธัมมทานัง ชินาติ"ทับซ้อนทบทวีกับบุรพเจตนาเดิมแห่ง"พุทธวงศ์"ที่กำหนดหมายให้เป็นขุมกุศลแห่งพระไตรรัตนบูชาอันยิ่งใหญ่อย่างไม่รู้ที่สุดสิ้นสืบไปเมื่อหน้า ความย่อมแจ้งตาแจ้งใจทั่วไปโดยลำดับอยู่แล้วนั้น.......

DSC01772(2).gif

โดย : "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)


[ หน้าที่ 1 จาก 4 ] 1 2 3 4 ถัดไป> หน้าสุดท้าย>>

IP : 203.156.22.xx เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 10:24:32 น.

ลำพัง "ฐานข้อมูลเดิม"ที่เกี่ยวเนื่องด้วยอัจฉริยคุณของท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนได้เคยล่วงรู้มาแต่ต้นจาก"พ่อแม่ครูอาจารย์" ตลอดจนหน่วยข่าวกรองและหน่วยสืบราชการลับทางจิตจำนวนมาก ก็มีอยู่อย่างหนาแน่นมิใช่น้อยแล้ว...
ครั้นเมื่อมา"ตอกย้ำ"ด้วยหนังสือ"รวมเรื่องเล่า สิ่งที่เห็น" ซึ่งอาจที่จะกล่าวได้ว่าเป็น"ประวัติหลวงตาฯภาคอภินิหาร" ซ้ำเข้าไปอีก ก็ทำให้อดที่จะขนลุก พร้อมมารำพึงในใจเงียบๆคนเดียวไปเสียมิได้ว่า
"สุดยอดพระอริยเจ้าระดับนี้ ที่น่าจะมีอยู่ในสมัยพุทธกาลเท่านั้น ยังจะมาปรากฏในยุคมืดยุคเสื่อม(อันตระวิวัฏฏะ)ดุจนี้ได้อีกหรือนี่..????"


DSC04688(4).gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.22.xx เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 10:45:12 น.

และเพื่อเป็นการ"ต่อยอด"แห่ง"ศรัทธา" แห่งผู้ที่"รู้การ"เป็นอันดีอยู่แล้ว และเพื่อเป็นการ"อนุเคราะห์" ให้แก่ผู้ที่ยังไม่ทราบถึง "ความนัย"แห่ง"พระอัจฉริยเจ้า" ผู้ทรงอนุตรคุณอันสูงสุดจริงแท้ดังองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน องค์นั้นให้ได้รับทราบทั่วกัน จนอาจที่ก่อให้เกิดทิษฐิที่ถูกตรงและสรรค์สร้างแรงบันดาลใจที่จะกอรปแต่กุศลกรรมโดยส่วนเดียวให้เจิดจ้าอยู่ในท่ามกลางดวงใจแห่งศรัทธาตลอดไปตราบชั่วกาลเป็นปฐมเหตุ เวปไซต์"พุทธวงศ์"จึงจะได้ขอนำเสนออัจฉริยภาพและบุญญาภินิหารแห่งพระคุณหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน สรุปย่อออกมาเป็นตอนพิเศษ เพื่อเป็นวิทยธรรมทานมหากุศลสืบต่อไปในบัดนี้เลยเสียทีเดียว....

20071272218371(1).jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.20.xxx เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 21:49:53 น.

"ในอนาคตเบื้องหน้า พระมหาบัวผู้นี้จักทำประโยชน์ใหญ่ให้แก่ประเทศชาติและพระศาสนา..!!!!"
(พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ พระบุพพาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานกล่าวพยากรณ์ไว้เมื่อพ.ศ. 2482)

a_mun(2)(1).gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.20.xxx เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 22:25:47 น.

"ท่านมหา...ท่านมหา..ขอใส่บาตรหน่อย"
(พระอาจารย์มั่น กล่าวพร้อมกับลุกขึ้นมาใส่บาตรให้หลวงตามหาบัวสมัยอยู่ที่บ้านหนองผือด้วยมือของท่านเอง หรือที่สุดบางคราวท่านพระอาจารย์มั่นก็กรุณาเอา"ผ้าที่ท่านห่มพร้อมดอกไม้ธูปเทียน"ไปทอดผ้าบังสุกุลให้ถึงที่จำวัดของหลวงตามหาบัวด้วยเมตตาอันหาที่เปรียบมิได้เลยทีเดียว..!!!!!)


3.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.20.xxx เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 22:28:20 น.

"ท่านมหาบัวนี่แหละ ที่จะเป็นที่พึ่งของหมู่คณะในวันข้างหน้านะ.."
(พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ)

wi617.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.20.xxx เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 22:31:33 น.

"ในยุคบ้านหนองผือ พระอาจารย์มหาบัวลึกซึ้งมากทุกวิถีทาง ท่านพระอาจารย์มั่นไว้ใจมากกว่าองค์อื่นๆในกรณีทุกๆด้าน.."
(หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดภูจ้อก้อ มุกดาหาร)

untitled33.gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.23.xx เมื่อ: 11 มิถุนายน 2551 เวลา: 8:27:03 น.

"หลวงตามหาบัวเป็นพระอรหันต์ร้อยเปอร์เซ็นต์ พันเปอร์เซ็นต์..!!!!"
(หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สุพรรณบุรี)

sangwanandbua.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.23.xx เมื่อ: 11 มิถุนายน 2551 เวลา: 8:31:41 น.

"หลวงตามหาบัวเป็นพระอรหันต์อันดับหนึ่งของประเทศไทย เพราะมีบารมีมากเหนือใครๆ ฤทธิ์ก็เยอะนะ..!!!!!"
(หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สุพรรณบุรี)

20060710171340(4).jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.23.xx เมื่อ: 11 มิถุนายน 2551 เวลา: 8:49:34 น.

"บุญอะไร ก็ไม่เท่าบุญที่ทำกับหลวงตามหาบัว..."
"เสียดายที่โยมพ่อโยมแม่ของอาตมาตายไปเสียก่อน หาไม่แล้ว จะต้องให้มาทำบุญกับหลวงตาเสียเลยทีเดียว..!!!!"
(หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สุพรรณบุรี)

DSC07180.gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.23.xx เมื่อ: 11 มิถุนายน 2551 เวลา: 8:54:40 น.

"สิ่งที่หลวงตามหาบัวทำ ถูกต้องทุกอย่าง อาตมาไม่มีข้อสงสัย..ให้ทำตามหลวงตาให้หมด"
(หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สุพรรณบุรี)


sudtai27.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.23.xx เมื่อ: 11 มิถุนายน 2551 เวลา: 9:13:45 น.

"ในยุคนี้ ไม่มีใครเกินหลวงตามหาบัว..!!!!"
(หลวงพ่อแนน สุภัทโท วัดซำขาวถ้ำยาว จ.ขอนแก่น)

sudtai29.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.23.xx เมื่อ: 16 มิถุนายน 2551 เวลา: 14:36:14 น.

"พระนักเทศน์ ใครๆก็รู้จัก..."
หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์

b20021114212505.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.23.xx เมื่อ: 16 มิถุนายน 2551 เวลา: 14:40:21 น.

"ผมยอมท่านอาจารย์(หลวงตามหาบัว) ดูลักษณะท่าทางนี่ไม่ผิดกับท่านอาจารย์มั่น ผมจับได้หมดเลย ผมเคารพสุดยอด!!!!"
หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตปฏิปทาราม ปทุมธานี

19.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.21.xx เมื่อ: 16 มิถุนายน 2551 เวลา: 15:04:29 น.

"ให้รีบไปกราบหลวงตามหาบัวเสียไวๆที่สุดเถิด เพราะหลวงตาท่านเข็นสังขาร(ต่ออายุ)มาให้นานถึง 10 กว่าปีนี่แล้วน๊ะ!!??!!"
พระอาจารย์แบน วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร(กล่าวกับศิษย์ตอนหลวงตามหาบัวเจริญอายุได้ 90 ปี)

หมายเหตุ ,1. เป็นที่ทราบกันวงในว่า แท้จริงนั้น หลวงตามหาบัวท่านหมดอายุขัยตั้งแต่ตอนที่ท่านอายุได้ 80 ปีแล้ว โดยช่วงนั้น หลวงตามหาบัวอาพาธหนักมาก(มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 4 ) และสั่งให้เตรียมสร้างเมรุเพื่อปลงสังขารของท่านเองที่วัดป่าบ้านตาดไว้เรียบร้อยแล้วด้วย แต่พอดีช่วงนั้น(พ.ศ. 2540) ประเทศไทยกำลังประสพวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนัก ใกล้ล้มละลายเต็มที หลวงตามหาบัวสงสารลูกหลานไทยว่าจะถึงความพินาศวอดวายกันหมดทั้งชาติไปเสียเปล่า ท่านเลยต้องเจริญ"อิทธิบาทภาวนา" ต่ออายุองค์ท่านเองด้วยกำลังฌาณและอรหันตฤทธิ์ที่ทรงอานุภาพอย่างเยี่ยมยอด จนสามารถระงับยับยั้งอาการอาพาธ(มะเร็งขั้นสุดท้าย)ให้สงบราบคาบได้เหมือนปลิดทิ้ง อีกทั้งยังมีกำลังวังชาแข็งแกร่งเหมือนมิได้เป็นอะไรมาก่อนออกบิณฑบาตทองคำและดอลล่าร์ เพื่อ"ช่วยชาติ"ให้พ้นจากหายนภัยจนประสพผลสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติสยาม โดยได้ทองคำเข้าคลังหลวงถึงกว่า 10 ตัน และเงินดอลล่าร์อีก 10 ล้านดอลล่าร์ ดังเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไปแล้วนั่นเอง...
2. ตอนนี้ หลวงตามหาบัว ท่านมีอายุได้ "95" ปีแล้ว นี่ก็เท่ากับว่า หลวงตาท่าน"ยืดอายุโปรดโลก"มานานถึงกว่า "15" ปีแล้ว จึงนับเป็นพระคุณและวาสนาล้นเหลือแก่ผู้ที่ปรารถนาจะได้พบได้เห็นได้กราบได้ไหว้และได้ทำบุญกับ"อัครอรหันต์"ผู้ซึ่งทำประโยชน์ใหญ่ให้กับประเทศชาติและพระศาสนาด้วยฤทธิ์และบุญบารมีอันสูงสุดดุจนี้อย่างแท้จริงเลยทีเดียว

DSC04718.gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.21.xx เมื่อ: 16 มิถุนายน 2551 เวลา: 15:16:51 น.

"เมตตาของหลวงตามหาบัวที่ได้ออกมาทำโครงการผ้าป่าช่วยชาตินั้น เปรียบเสมือนกับผืนแผ่นฟ้าที่ห่มคลุม(ปกป้อง)แผ่นดินไทยไว้ทั้งหมดเลยทีเดียว..!!!!!"
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร

6140.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.21.xxx เมื่อ: 18 มิถุนายน 2551 เวลา: 8:54:25 น.

"ถ้าไม่(ทรงคุณธรรม)"ถึงขั้น"จริงๆแล้วละก็ จะถามปัญหาแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ..!!?!"
หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ กล่าวชมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนในการสนทนาถามปัญหาธรรมครั้งหนึ่ง

b20021114212656.gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.21.xxx เมื่อ: 18 มิถุนายน 2551 เวลา: 9:00:15 น.

สาธุ.......

DSC06836.gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.21.xx เมื่อ: 23 มิถุนายน 2551 เวลา: 9:45:54 น.

"หลวงตามหาบัวเคยเล่าให้หลวงตาพุธฟังครั้งหนึ่งว่า....
แต่ก่อนนั้น หลวงตาอยากเป็นพระ เมื่อได้บวช ก็เป็นพระสมใจแล้ว
ต่อมา หลวงตาอยากเป็นพระมหา สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ก็ได้ชื่อว่า"มหาบัว"สมดังปรารถนาแล้ว
ต่อมาอีก หลวงตาอยากเป็นพระนักปฏิบัติ ก็ออกธุดงค์วัตรปฏิบัติธรรม ก็ได้ชื่อว่าเป็นพระนักปฏิบัติแล้ว
ครั้นสุดท้าย หลวงตาอยากสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเต็มกำลัง
แต่...คราวนี้ "ความอยากเป็นพระอรหันต์"ไม่รู้หายไปไหนหมดแล้ว...!!??"


DSC07394.gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.21.xx เมื่อ: 23 มิถุนายน 2551 เวลา: 10:09:53 น.

และหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ก็สรุปในตอนสุดท้ายว่า
"นี่แหละ ท่านผู้เป็นพระอรหันต์ หมดอาสวกิเลสแล้วอย่างแท้จริง ย่อมเป็นอย่างนี้นี่แล!!!!!"
หมายเหตุ, เรื่องหลวงตามหาบัวตอนนี้ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมาได้เคยเล่าให้ได้ฟังซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่หลายวาระด้วยกันก่อนที่ท่านละสังขาร เหมือนจะแสดง"ความนัย"บางประการให้ปรากฏ เห็นมีเนื้อหาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงขอนำมาเผยแพร่ ณ. ที่นี้ เพื่อให้ได้ร่วมอนุโมทนาเป็นมหากุศลทั่วกันทีเดียว

DSC07375(1).gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.25.xxx เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:19:46 น.

"อรหันต์เหมือนกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน(บารมี)....!!!!"
"จากนี้ไป ต่อให้เกิดอีกสิบชาติร้อยชาติ ลูกหลานทั้งหลายก็ไม่มีทางที่จะเจอพระอรหันต์(ที่มีบารมีล้นฟ้า)อย่างหลวงตามหาบัวอีกแล้วนะ ให้รีบไปทำบุญกับท่านไวๆเถิด ประเสริฐที่สุดแล้วจริงๆ!!!!!"
พระอริยะสายกรรมฐานองค์สำคัญที่หลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัตตปฏิปทารับรองว่า "มีพลังจิตเทียบเท่ากับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร"(ขอสงวนนาม)กล่าวกับศิษย์ใกล้ชิดไว้ครั้งหนึ่ง

DSC08357.gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.25.xxx เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:22:34 น.

ท่าน ก.เขาสวนหลวงยกย่องหลวงตามหาบัว










สายสัมพันธ์ในธรรม..ของท่านมิได้จำกัดในหมู่เพื่อนบรรพชิตเท่านั้น....
มีฆราวาส จำนวนมากที่สนใจประพฤติปฏิบัติธรรมและสำหรับผู้ที่มีความมุ่งมั่นจริงจังไม่ว่าเพศภูมิใด ย่อมประจักษ์ผลแห่งธรรมภายในใจ....ขึ้นเป็นลำดับๆ ไป นักภาวนาหญิงหรือชาย นั้นจะให้เหตุผลแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไรหลวงตาท่านเคยได้ให้เหตุผลว่า
"........การปฏิบัติไม่มีเพศ เรื่องมรรคผลนิพพานแล้วไม่เพศ
เหมือนกับกิเลสไม่มีเพศ มีได้ด้วยกันทั้งนั้น ความโลภก็มีได้ทั้งหญิงทั้งชาย
ความโกรธ ความหลง ราคะ ตัณหา มีได้ด้วยกัน
มัชฌิมาปฏิปทา จึงมีได้ทั้งหญิงทั้งชาย เป็นเครื่องแก้กิเลสทั้งหลาย
แก้ได้ด้วยกันทั้งนั้น ด้วยอำนาจความสามารถ ของตนแล้ว มีทางหลุดพ้นได้ด้วยเช่นเดียวกัน..."

ด้วยเหตุนี้เองเมื่อโอกาสอำนวย...ท่านจะไปเยี่ยมเยียนถึงสำนักผู้ปฏิบัติธรรมเหล่านั้นเสมอ ... เช่น สำนักชีบ้านห้วยทราย ของคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ สำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวงของอุบาสิกากี นานายน ในตอนนี้จะขอเล่าถึงตอนที่ท่านแวะเยี่ยมสำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง ดังนี้

ท่านเคยได้ยินกิตติศัพท์ชื่อเสียงของคุณยาย ก. เขาสวนหลวง มานนานแล้วว่าเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบควรแก่การเคารพกราบไหว้ แต่มีข้อประหลาดใจอยู่อย่าง หนึ่งคือ เขาว่ากันว่าคุณยายเป็นคนไม่เอาพระ คือไม่ต้อนรับพระ สิ่งนี้จึงทำให้หลวงตาฯ อยากรู้ว่าเป็นจริงหรือ ?
หรือว่ามีเหตุผลด้วยประการใดกันแน่ เพราะหากเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจริงๆ แล้ว ลักษณะเช่นนี้ไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้ ท่านจึงไม่อยากเชื่อข่าวลือนี้นัก

เหตุนี้เอง เมื่อมีจังหวะมาถึงในคราวท่านมากรุงเทพฯ เพื่อดูแลอาการอาพาธของท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) ชึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเองที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อได้โอกาสอันควร ท่านจึงได้ไปเยี่ยมเยียนคุณยาย ก. ถึงสำนักฯ เขาสวนหลวง จ.ราชบุรี ด้วยตนเองเลยทีเดียว...

พอเข้าไปถึงสำนักเท่านั้น ไม่นานก็มีเสียงระฆังเคาะดังกังวานขึ้น เรียกให้สตรีนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายพากันหลั่งไหลมากราบท่าน และให้การปฏิสันถารต้อนรับ เป็นอย่างดี โดยมีคุณยาย ก.เป็นหัวหน้าอยู่ ณ ที่นั้นด้วย
หลังจากสนทนาพูดคุยกันได้ไม่นาน คุณยายกราบอาราธนานิมนต์ให้หลวงตาฯ แสดงธรรมแก่เหล่าอุบาสิกานักปฏิบัติธรรมทั้งหลายท่านจึงแสดงธรรมเน้นเรื่องจิตภาวนาเป็นสำคัญ...
ทราบว่าหลังการแสดงธรรมคุณยายถึงกับประกาศขึ้นด้วยความอาจหาญในธรรมปฏิบัติของคุณยายเองแก่บรรดาลูกศิษย์ในสำนักว่า



"ธรรมที่ท่านอาจารย์ได้แสดงให้ พวกเราฟังนั้น สามารถยึดถือเป็นหลักประพฤติปฏิบัติได้ถูกต้องไม่มีผิดพลาด แม้เปอร์เซ็นต์เดียว"

เหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นที่ประจักษ์แก่ตัวท่านเอง ดังคำกล่าวที่ท่านเล่าให้ผู้มากราบเยี่ยมคณะหนึ่งฟังว่า




"ที่ว่าคุณยายไม่ต้อนรับพระนั้น หมายถึง พระประเภทโกโรโกโสไม่ได้เรื่องได้ราวต่างหาก ถ้าเป็นพระเคารพธรรมเคารพวินัยคุณยายท่านก็ไม่เป็น ....จะว่าอะไร แม้แต่เราเองก็ไม่ต้อนรับพระประเภทนั้นเหมือนกัน..."


คัดจาก"หนังสือหยดน้ำบนใบบัว หน้า 213 -214 "ประวัติหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.25.xxx เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:43:24 น.

"เทวดา อินทร์ พรหม ทราบหมดในเรื่องของเรา..!!!!!"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี


DSC08410.jpg41.gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.25.xxx เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:45:22 น.



2007127221021.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.25.xxx เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:46:35 น.



2007127221531.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.25.xxx เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:47:40 น.



20071272212311.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.25.xxx เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:49:17 น.



20071272213221.jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.25.xx เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา: 8:30:24 น.

มหาอนุโมทนา พระอริยะผู้กล้ากู้แผ่นดินแห่งสยามประเทศ
พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)

วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี



เกริ่นนำ

สำหรับข้อเขียนต่อไปนี้ ผู้เขียนได้เขียนถวายบูชาพระคุณแห่งท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ในฐานแห่งผู้ที่”รัก”ความจริง”และ”ถือ”ความจริงอันสูงสุดเป็นสรณะโดยส่วนเดียว อย่างไม่มีการเห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น โดยที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่สุดแห่งความเคารพสักการะบูชา หาได้เขียนในฐานะที่เป็น”ศิษย์”ในองค์หลวงตามหาบัวเป็นการส่วนตัวแม้สักน้อยไม่ เพราะผู้เขียนหาได้มีจริตนิสสัยและวาสนาเพียงพอที่จะ”นิพพานชาตินี้”ตามเบื้องบาทแห่งท่านแต่อย่างไรไม่ด้วย ฉะนั้นข้อความต่อไปนี้ จึงมั่นใจได้ว่า มีความเป็น”กลาง”อย่างยิ่ง อันใครๆจะพึงกล่าวหาว่า นี้เป็นการเขียนเพื่อ”เชียร์อาจารย์ตัวเอง”มิได้เลย

จึงขอแจ้งมาเพื่อทราบและความเข้าใจอันดีโดยทั่วกัน.......

************************************

แม้โดยจริตนิสสัยส่วนตัวของผู้เขียน จะมิมีวาสนาใกล้ชิดผูกพันในองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานีมาแต่ไหนแต่ไรก็ตามที แต่ด้วยความที่เป็นคนที่รักความ”ถูกต้อง”และความ”เที่ยงธรรม”เป็นที่ยิ่ง อย่างไม่มีการเห็นแก่หน้าผู้ใดเป็นสรณะ เมื่อได้เห็นพระหรือโยมคนไหนทำดีแท้ แน่จริง ก็อดให้ตั้งกัลยาณจิตร่วมอนุโมทนาสาธุการไปด้วยเสียมิได้

ไม่นิยมในอันที่จะ”แบ่งแยก”เราเขาให้เสียอารมณ์และความ”เป็นกลาง”เป็นอันเด็ดขาด

ชมชอบเป็นที่สุดที่จะยึดถือ”สัจจะ”ความถูกต้องตามความเป็นจริง เป็นหลักใจอย่างสูงสุดทุกเมื่อ

ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระองค์ไหน ใครคนหนึ่ง หากเป็นคนดี พระดีแท้แน่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นศิษย์เป็นอาจารย์ หรือต้องมีความผูกพันกันมาแต่ชาติปางไหน ผมก็ไม่รีรอที่จะ”เผย”คุณงามความดีแห่งท่านๆนั้นๆให้ทุกคนได้ล่วงรู้และรับทราบกันต่อไป

หากนี้จะถือว่าเป็น”บุญ” ผมก็ขออุทิศบุญนี้ให้แก่ทุกๆท่านอย่างไม่หวงแหนต่อไปอีกทอดหนึ่งด้วย

แจ้งความในใจให้ทราบกันเป็นปฐมก่อนอย่างนี้

และแน่นอน อันองค์ของท่านเจ้าคุณพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโนนี้ โดยเนื้อแท้แห่งจิตวิญญาณแล้ว ท่านก็คืออีกหนึ่งในพระดีมากๆ ถึงมากที่สุดอย่างไม่ใครต้องสงสัย

ก็หากจะเรียกท่านว่า เป็นพระ”อัจฉริยาริยเจ้า”(อัจฉริยะ+อริยเจ้า) แห่งประวัติศาสตร์ของชนชาติสยามที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์เลย ก็อาจที่จะว่าจะกล่าวได้ไม่ผิดคำ

ดูแต่”โครงการช่วยชาติ”ที่ท่านสู้อุตส่าห์ยอม”เปลืองตัว” ให้เป็นขี้ปากชาววัด ชาวบ้านได้นินทาว่าร้ายป้ายสีอย่างเลือดไหลโชกๆ ออกมาบิณฑบาต”ทองคำ”และ”ดอลล่าร์” เพื่อมาเป็นทุนสำรองในธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อ”กู้แผ่นดิน”ให้พ้นจากสภาวะวิกฤติทางการเงินที่ผ่านมาแต่เพียงอย่างเดียว ก็สะท้อนให้เห็นถึง”อริยปัญญา” อันแยบยลและ”มหาเมตตา มหากรุณา”อันลึกซึ้งยิ่งใหญ่ จนเกินกว่าที่สามัญปุถุชนทั่วไปจักคาดคิดถึงได้อย่างชัดเจนที่สุดแล้ว

ก็อย่าว่าแต่คนไหนใครอื่นเลย แม้แต่ตัวของผู้เขียนคนนี้เอง แต่แรกก็ยังนึกประมาทท่าน ตามประสาคนโง่ที่ยังไม่มี”ปัญญาจักษุ”อย่างรู้แจ้งแทงตลอดเอาเสียเลยทีเดียวว่า

”วิริยาธิกะจริงๆ......”

”วิริยาธิกะแท้ๆ......”

หรือหากจะว่าตามเรื่องของ”พระมหาชนก” ผมก็คงไม่แคล้วต้องว่าบทของ”นางมณีเมขลา”ที่กล่าวกับพระมหาชนกที่เรือแตก แล้วกำลังแหวกว่ายอยู่กลางมหาสาครใหญ่ที่ว่า

”นี้ใคร...เมื่อยังไม่เห็นฝั่ง ก็ยังพยายามว่ายน้ำนักหนาอยู่เห็นปานนี้....???”

ก็”หนี้ต่างประเทศ”ที่มีจำนวนมากนับเป็น”ล้าน*ล้าน”บาท ตลอดจน”ทองคำ”และ”ดอลล่าร์”ในท้องพระคลังหลวง ที่ถูก”ผลาญ”ละลายแม่น้ำเจ้าพระยาทิ้งไปอย่างไม่สมควรจนแทบจะหมดแบงค์ชาตินั่นแหละครับ

คงไม่ต้อง”ลำเลิก”ก็น่าจะรู้ดีหรอกนะครับ ว่างานนี้ “ฝีมือ”ของผู้ใด???

ก็”ทอง”และ”ดอลล่าร์”ที่หลวงตามหาบัวรับบิณฑบาตมาในช่วงแรกๆไม่กี่บาทกี่ชั่งนั้น จะทำอะไรได้เล่า

ช่างไม่อาจจะถึงการเปรียบ ไม่ถึงการเทียบกับ”หนี้ของแผ่นดิน”ที่สุมหัวทุกคนอยู่ แม้เศษหนึ่งส่วนเสี้ยวที่สิบหกเลยจนนิดเดียว

ดูแล้ว ออกจะเป็นเรื่องที่”เหนื่อยเปล่า”และ”เป็นไปไม่ได้”อย่างแท้ๆ

เพราะสถานการณ์ทั้งนั้น ไม่แตกต่างอะไรกับการพยายามของ”พระมหาชนก”เมื่อครั้งกระนั้นเลยแม้สักน้อย

แต่พอครั้นได้”รู้แจ้ง”ถึง”ความนัย”ทั้งปวงแล้ว ผมก็แทบจะต้องตบกระโหลกตัวเอง ในฐานที่”ง่าวจ๊าดนัก” ด้วยไม่เข้าใจในเจตนารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในจิตใจเบื้องลึกที่สุดแห่งองค์ท่านมาเป็นนานสองนาน

สำหรับเหตุผลที่ท่านหลวงตาเคยว่าไว้ก็คือ หากจะมามัวทอดอาลัยไม่ทำอะไร หรือมามัวแต่นั่งเคียดขึ้งกับคนที่ก่อเรื่องแล้ว ก็หาได้มีประโยชน์อันใดแม้สักน้อยหนึ่งไม่

คงมีแต่”ตายกับตาย”อย่างที่ไม่เหลือคุณค่าให้ใครๆมาเห็นหัวได้อย่างแน่นอน

ฉะนั้น ท่านหลวงตามหาบัวจึงกระทำการตามเยี่ยงอย่างหน่อพระโพธิสัตว์”พระมหาชนก”ด้วยการ....

แม้ไม่เห็นฝั่ง ก็จักว่ายอยู่ไม่หยุด

แม้ไม่มีความหวัง ก็ยังคงก้าวต่อไปไม่ยั้ง

และ แม้จะไม่เห็นผลที่สำเร็จ ก็ยังจะพยายามต่อไปตราบจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย..........

แม้ตาย ก็นับว่า ไม่เป็นหนี้แก่ผู้ใด

ก็”เพียร”แล้ว ก็”พยายาม”อย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว

ผู้มีใจอันเป็นธรรมคนใดๆจักอาจจะว่าจะกล่าวจะตำหนิต่อผู้”ทำความเพียร”ได้เล่า

อีกทั้งการ”ช่วยชาติ”ดังนี้ หาใช่เป็นไปเพราะ”ตัวเอง”เพียงคนเดียวให้พ้นจากการจ่อมจมในห้วงแห่ง”ธนสาคร”ก็หามิได้แต่ประการใดทั้งสิ้น

แต่เป็นการช่วยทั้ง”คน” ช่วยทั้ง”ชาติ”รวมหมดถึง”พระศาสนา”ทั้งหมดในคราวเดียวกันนี้นั่นเลยทีเดียว

แล้วตอนนี้ ผลแห่ง”ความเพียร”ของท่านหลวงตา ก่อให้เกิดผลอันยิ่งใหญ่เห็นปานใด???

ขวัญกำลังใจและเศรษฐกิจของชาติโดยรวม จากที่ใกล้ล่มสลายหายนะเต็มที กลับพลิกฟื้นขึ้นมาอย่างน่าหวาดเสียวที่สุดได้ หากมิใช่เพราะ”ญาณปัญญา”และการ”ทำจริง”ของหลวงตามหาบัวแล้ว จะนับเป็นฝีมือของบุคคลใดใครที่ไหนกันอีกเล่า..???

เงินตราและทองคำสำรองในคลังหลวงของประเทศชาติไทยตอนนี้ เพิ่มทวีมากขึ้นเท่าไร ใครรู้บ้าง.???

เสถียรภาพและความมั่นคงของค่าเงินบาทที่เพิ่มค่าแข็งแกร่งขึ้นทุกทีๆ หากไม่มีทองคำและดอลล่าร์ที่หลวงตาเพียรบิณฑบาตหามาค้ำประเทศชาติไว้อย่างสุดชีวิตถึงกว่า 11,000 กิโลกรัม(11 ตัน) จะยังมีวันนี้ได้อยู่อีกล่ะหรือ..????

ขอพี่น้องท่านทั้งหลาย จงพินิจพิจารณาตริตรองด้วยความให้จงดีเป็นธรรมเถิด

แต่โดยส่วนตัวของผู้เขียนแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งชวนให้ต้องคิดหนักเข้าไปอีกว่า ก็อันอัจฉริยบุคคลผู้มีจริตนิสสัยหาญกล้า ถึงพร้อมด้วยภูมิปัญญา ตลอดจนความเมตตากรุณาและเสียสละเพียบพร้อมอย่างยิ่งใหญ่จนกระทั่งถึงขั้นกล้า”ตัดคอรอง”ให้กับส่วนรวมและประเทศชาติได้เห็นปานนี้ คงจะมิใช่”สามัญบุคคล”มาแต่เดิมอย่างไม่ต้องสงสัย

ค่อนข้างจะแน่นอนเสียเหลือเกินว่า หลวงตามหาบัวท่านคงจะมีจริตนิสสัยและบำเพ็ญบารมีในเชิง”พุทธภูมิ”มาก่อนอย่างยากที่จะคิดให้เป็นอื่นได้

อธิวาสนาและอธิบารมีแห่งท่าน ถึงได้ยิ่งใหญ่และไพศาลเกินกว่าที่”สาวกภูมิ”ธรรมดาทั่วไปจึงพึงยังให้มี ให้เป็นไปเห็นปานนี้ได้

ต่อเมื่อได้มาอ่าน”อาจาริยธรรม”แห่งท่านในหนังสือ”บูรพาจารย์”แล้ว จึงได้”แจ้งใจ”อย่างสิ้นเชิงทีเดียว ดังมีบันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า

"...ในยามที่พระเณรมีข้อผิดพลาดขึ้นคราใด ท่าน(หลวงตามหาบัว)มักจะออกรับผิดกับท่านพระอาจารย์มั่นแทนหมู่เพื่อน ชนิดยอมตัดคอออกรองเลยก็ว่าได้...
ท่านจะรีบดึงปัญหานั้นเข้าหาตัวท่านเองทันที เพราะเห็นหมู่เพื่อนพระเณรเกรงกลัวท่านพระอาจารย์มั่นมาก ทำให้ท่านรู้สึกสงสารและเห็นอกเห็นใจ อีกทั้งความจงใจทำผิดก็ไม่มี จะมีบ้างก็เป็นข้อผิดพลาด(เล็กน้อย)บางประการเท่านั้น สำหรับท่านเองก็พออดพอทนได้ หากว่าท่านพระอาจารย์มั่นจะเคาะจะตีอะไร ท่านก็อดทนเอา....
แต่เมื่อนานๆไป ความผิดพลาดมีบ่อยครั้งเข้า และทุกครั้ง ก็จะมี"ท่านมหาบัว"ออกหน้ารับผิดทุกครั้งไป ท่านพระอาจารย์มั่นจึงดุเอาอย่างรู้ทันทีเดียวว่า
"ใครผิดหัววัดท้ายวัดก็มหา ใครผิดท้ายวัดหัววัดก็มหา..เอะอะก็มหาผิด..เอะอะก็มหาผิด!!!"
"มันจะโง่ขนาดนั้นหรือมหานี่น่ะ..หือ..หือ..!!?!"


ก็ด้วยจริตนิสสัยแห่งความเป็น”ผู้นำ”ที่กล้ารับทั้ง”ผิด”และ”ชอบ”แทนผู้อื่นอย่างไม่กลัวเจ็บ ที่ได้ฉายแววให้เห็นตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่มๆอยู่เห็นปานนี้ จึงไม่น่าแปลกใจอันใด ที่หลวงตามหาบัวจะหาญกล้า”ออกหน้า”มาเป็น”ผู้นำ”ในการ”ช่วยชาติ”อย่างไม่มีความอาลัยแก่ชีวิต โดยมิพักจะใยดีต่อคำครหานินทาของผู้ที่”ไม่เข้าใจ”หรือ”ไม่ยอมเข้าใจ”ทั้งหลาย ที่อื้ออึงไปทั่วทุกสารทิศแต่อย่างไรทั้งสิ้นไม่แม้จนนิดเดียว

เพื่อยังส่วนรวมให้รอด หาได้มีสิ่งอื่นใดสำคัญยิ่งไปกว่านี้แล้วไม่

แม้บางครั้ง จำจะต้องปล่อย "บัวใต้น้ำ" จำนวนไม่น้อยให้ต้องตกเป็นภักษาหารแก่เต่าและปลาไปต่อหน้าต่อตา นั่นคือการดำดิ่งลงสู่อบายภูมิ จากการปรามาสพระอริยเจ้าชั้นสูงและขัดขวางการช่วยชาติและพระศาสนาให้คงอยู่ ซึ่งเท่ากับเป็นการทำลายให้ชาติและบวรพระพุทธศาสนามีอันต้องถึงแก่กาลอวสานโดยตรง อันย่อมเป็นกรรมอันหนักอย่างสาหัสที่สุด ไม่มีใดจะเปรียบปานได้ก็ตามที

การย่อมเป็นดังอริยวาทะของพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลองค์หนึ่งท่านได้กล่าวไว้อย่างชัดแจ้งว่า

"สัตว์โลกย่อมพินาศเพราะความไม่รู้แจ้ง"

นั่นก็คือ

"ถูกคือถูก....ผิดคือผิด"อย่างเด็ดขาด

และวาทะโลกที่ว่า "ผู้ไม่รู้ไม่ผิด" หาได้เป็นข้อยกเว้นที่จะปฏิเสธในอันที่จะไม่รับผลทั้งดีและร้ายที่ตนเองได้ทำไว้เองแต่อย่างไรไม่

"สัตว์โลก"ทั้งหลาย มีหน้าที่ใฝ่หาความ"รู้แจ้ง"กันเอาเอง

หากไม่หา แล้ว"ทำผิด" ก็ต้องเสวยผลอันเป็นทุกข์ ด้วยตัวเอง

ใครอื่นเลย จักช่วยได้เล่า..???

และแน่นอน มหาบุญแห่งการ"ช่วยชาติ"ในครั้งนี้ ท่านว่า"ยิ่งใหญ่"นักหนา....

เพราะนี้เป็นการกู้ชาติทั้งชาติ กู้ศาสนาทั้งศาสนาให้รอดพ้นจากการตกอยู่ในมือของ”ต่างชาติ”นอกพระพุทธศาสนา ที่จะใช้เกมทาง”สงครามเศรษฐกิจ”มาย่ำยีบีฑาและบดขยี้ชาติไทยและบวรพระพุทธศาสนาให้ดับสูญสิ้นไปในคราวเดียวอย่างแยบยลและน่าขนพองสยองเกล้าเป็นที่สุดนั่นเอง

ช่างเป็นบุญอย่างเหลือเกิน ที่บวรพระพุทธศาสนาและประชาชาติไทยยังได้มี”สุดยอดพระดี”อย่างท่านเจ้าคุณพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มา”ยกชาติ”ให้พ้นภัยได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุดเห็นปานนี้

ต่อให้ตายแล้วเกิดใหม่สักสิบชาติ ร้อยชาติ โดยส่วนตัวของผู้เขียนเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เราท่านทั้งหลาย ยังจะมีโอกาสวาสนาได้พบพานกับพระเอกอัครขีณาสวเจ้าผู้ใจเด็ดและหาญกล้าเสมอด้วยท่านหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโนนี้อีกหรือไม่..????

ฉะนั้น เมื่อขณะมีอยู่เฉพาะหน้าเห็นปานนี้แล้ว ก็ขอท่านทั้งหลายจงอย่าได้พลาดโอกาส”ทองคำลงยาฝังเพชร”ที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนท่านได้ให้โอกาสแก่ทุกๆคนได้สร้างมหากุศลอันใหญ่หลวงที่สุดในการ”ช่วยชาติ”ในคราครั้งนี้ไปเปล่าเลย................



นมัสการอริยผู้ อรหันต์

บริสุทธิ์ดุจดวงตะวัน ส่องด้าว

เมตตาพระมหันต์ นักยิ่ง นาพ่อ

ยกไทยพ้นรวดร้าว เทวษไห้ ขุกเข็ญ



ล่วงเลยใช่ล่วงแล้ว เพียงองค์

กรุณาพระธำรง ท่วมฟ้า

โปรดสัตว์เร่งจำนง จ่ายแจก

อนุเคราะห์สัตว์ทั่วหล้า ก่อนกี้ สุดพรรณา



ถึงคราวไทยเร่าร้อน สุดประมาณ

เศรษฐกิจล้วนแหลกลาญ ทั่วหล้า

ดั่งต้องโทษประหาร ปลิดชีพ

มหาชนต่างอ่อนล้า ชอกช้ำ สุดฝืน



น้ำตาทุกข์ยากไร้ ท่วมดิน

หลวงตาย่อมยลยิน แน่แท้

แสนสงสารไทยสิ้น ที่พึ่ง

ท่านจึ่งจำเร่งแก้ ชาติพ้น ภัยพาล



จากป่าออกบากหน้า สู่เมือง

บิณฑบาตทองเมลือง เลื่องค่า

ใส่กายก็เรืองเหลือง เพียงอาตม์

หาได้ชูเชิดหน้า แผ่นพื้น ไผทสยาม



เงินทองดอลล่าร์ล้วน ประสงค์

มาค้ำเงินบาทยง ยิ่งฟ้า

ต่างชาติย่อมจำนง เปลี่ยนแลก

ยินดีมาขายค้า พรั่งพร้อม ทั่วสกล



บุญใดฤาเทียบเท่า กู้แผ่นดิน

ยกชาติทั้งธรณิน นี่นี้

คุ้มศาสน์พ้นพังภินท์ พินาศ

อานิสงส์ท่านจึ่งชี้ ยิ่งล้ำ เลอสรวง



แลฤาคือท่านแท้ มหาบัว

ดั่งพ่อแม่ของทุกทั่ว แน่แล้ว

เมตตาพระเหนือหัว ทุกผู้

คุ้มเกศดั่งกลดแก้ว กางกั้น เกศี



ขอจำรำลึกไว้ กลางใจ

ทั่วภพจบวัฏฏ์ไกล ไป่สิ้น

บุญคุณพระยิ่งใหญ่ เกินพร่ำ

แม้ชีพจักด่าวดิ้น ไม่สิ้น อนุสรณ์


ญาณสัมปันโน มหาเถเร ปมาเทนะ ทวาระกะเตนะกะตัง

สัพพัง อะปะราทัง ขะมะตุโน ภันเต



_1_908(3).jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.25.xx เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา: 8:32:03 น.

อนึ่ง ทราบเป็นการภายในมาว่า เหตุที่ว่า การช่วยชาติของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนในครั้งนี้ มีอานิสงส์ใหญ่ยิ่งที่สุด หาใดเปรียบมิได้นั้น ก็เพราะ
1.เงินทองหรือดอลล่าร์ที่ถวาย นับเป็นทรัพย์สิน"ของสงฆ์"(สังฆทาน) ซึ่งมีอานิสงส์มากอยู่แล้ว
2.คณะสงฆ์โดยมีหลวงตามหาบัวเป็นองค์ประธาน ได้มีสังฆมติยกให้เป็นทรัพย์รักษาแผ่นดิน ยิ่งได้บุญทับซ้อนยิ่งๆขึ้นไปอีก
3.ทรัพย์แผ่นดินทั้งทองคำและดอลล่าร์นี้ เมื่อเข้าสู่คลังหลวง ก็เท่ากับ"ช่วยชีวิต"และ"รักษาลมหายใจ"ของคนไทยทั้งประเทศทุกคนรวดเดียวถึงกว่า 60 ล้านคนให้คงดำเนินอยู่ต่อไปได้ (ให้ชีวิตคน 60 ล้านคนเป็นทาน) ซึ่งได้กุศลไม่สุดสิ้น ยิ่งกว่าการไถ่ชีวิตโคกระบือเป็นทานจนหมดโลกก็ตาม
4.คนไทยทั้ง 60 กว่าล้านคนที่ทองคำและดอลล่าร์ในคลังหลวงคุ้มครองไว้ มี"พระภิกษุสงฆ์"ถึงกว่า 300,000 รูป การบริจาคช่วยชาติ จึงเท่ากับได้ถวาย"อภิมหาสังฆทาน"ในส่วนแห่ง"ชีวิต"และ"ปัจจัยสี่"พระสงฆ์ถึงสามแสนรูปโดยอัตโนมัติ
5.ในพระสงฆ์ 300,000 กว่ารูปนั้น มีพระ"อริยะ"ตั้งแต่โสดาบัน,สกิทาคามี,อนาคามีและพระอรหันตเจ้าอยู่กี่องค์ จะนับด้วยจำนวนสิบหรือร้อยองค์ การบริจาคช่วยชาติ ก็เท่ากับได้ถวายสังฆทานในพระอริยเจ้านับเป็นสิบเป็นร้อยองค์แบบรวดเดียวและเบ็ดเสร็จในครั้งเดียว
6.ก็ในประเทศไทยทั้งหมดนั้น มีวัดรวมกันกว่า 20,000 กว่าวัด มีพุทธสถานสำคัญ โดยที่หลายๆแห่ง ก็มีประวัติว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยเสด็จมาด้วยพระองค์เอง รวมไปถึงลานพระเจดีย์พระบทพระบาทพระธาตุพระพุทธรูปอยู่นับเป็นร้อยๆแห่ง การบริจาคช่วยชาติเพียงที่เดียว ก็เท่ากับเป็นการปกป้องรักษาและถวายทานที่เป็นส่วนแห่ง"เสนาสนทาน"และ"วิหารทาน" ,"ธรรมทาน" ตลอดจน"สังฆทาน"ในทุกวัดรวดเดียวทั้งประเทศ ใครจะไปคำนวนอานิสงส์ในครั้งนี้ได้
การ"ช่วยชาติ"ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนเป็นการบำเพ็ญมหาทานบารมีแบบ"ครอบประเทศ" ซึ่งเป็นการ"ช่วยโลก"แบบ"เหมาหมด" ไม่มีส่วนเหลือ
โบสถ์ทุกโบสถ์ วิหารทุกวิหาร กุฏิทุกกุฏิ พระพุทธรูปทุกๆองค์ที่มีนับแสนนับล้านหรือสิบๆล้าน ไม่ว่าจะอยู่ที่วัดไหน อารามไหน หรือสถานที่แห่งใดก็ตาม พระทุกรูป ไม่ว่าจะเป็นสมมุติสงฆ์หรืออริยสงฆ์ คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว ล้วนตั้งอยู่บน"ฐานบุญ" คือ "แผ่นดินไทย" ที่คงอยู่ได้ เพราะเหตุแห่งการ"ช่วยชาติ"นี้หมดทั้งสิ้น
ที่สุด....แม้สักเม็ดฝุ่นเม็ดทรายที่สุดจะคณานับได้ในแว่นแคว้นแห่งสยามประเทศที่มีอยู่กว่า 500,000 ตารางกิโลเมตรนั้น ที่จะหลงรอดในอันที่จะไม่ถูกเมตตามหาบารมีของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนนี้โอบอุ้มคุ้มครองไว้ทั้งหมด ก็หามีไม่เลยแม้สักอณูเดียวเม็ดเดียวอย่างแท้จริง....
ไม่จำเป็นจะต้องกล่าวในสิ่งที่"สูง"ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีกแล้ว
อานิสงส์แห่งการ"ช่วยชาติ" ที่ประดิษฐานบวรพระพุทธศาสนาอย่างประเทศไทยที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนเมตตาพาดำเนินดังกล่าว จึง "ยิ่งใหญ่" และมีอานิสงส์ "สูงสุด" ไม่มีใดเทียมอย่างที่"พุทธวงศ์"ได้อรรถาธิบายขยายความอย่างพิศดารมาด้วยประการฉะนี้แลฯ

20060710171340(7).jpg


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 203.156.27.xx เมื่อ: 27 สิงหาคม 2551 เวลา: 21:40:42 น.

"ได้ยินชื่อท่าน(พระมหาบัว)มานานแล้วหลายสิบปี ท่านเป็นพระอรหันต์นะองค์นี้ ข้ารู้มานานแล้ว..!!!!"
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก พระนครศรีอยุธยา

untitled.gif


"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)





IP : 58.8.129.xx เมื่อ: 29 ธันวาคม 2551 เวลา: 9:27:00 น.

ท้าวสักกเทวราชมาขอฟันหลวงตามหาบัว

โถ อำนาจกิเลสไม่ใช่เล่นๆ นะ โธ่ๆ พิลึกจริงๆ ขึ้นครอบโลกธาตุให้สัตว์ทั้งหลายเกิดแก่เจ็บตายอยู่นี้มีแต่เรื่องกิเลสทั้งนั้น กิเลสเป็นเจ้าอำนาจ พอกิเลสขาดออกแล้วโล่งหมดเลย ไม่มีอะไรมาขวางใจ มีกิเลสเท่านั้นชี้นิ้วได้เลย มีกิเลสเท่านั้นมาขวาง ต้นไม้ภูเขาดินฟ้าอากาศไม่ขวาง กิเลสเท่านั้นขวางหัวใจสัตว์โลก เป็นก้างขวางคอตลอดเวลา เอาให้มันเต็มเหนี่ยวให้ได้มาพูดซิ พูดเฉยๆ พูดลมๆ แล้งๆ พระพุทธเจ้าไม่ใช่ศาสดาลมๆ แล้งๆ รู้จริงเห็นจริงทุกอย่าง สอนตรงไหนไม่ผิดๆ เลย วิธีสอนการแก้กิเลสก็ถูกต้องทุกอย่าง เรียกว่าสวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบๆ
เวลาจะประกอบความเพียรกิเลสรุมเข้าไปแล้ว พอเราจะประกอบความเพียรชำระกิเลส กิเลสรุมเข้าไปแล้ว ความขี้เกียจขี้คร้านท้อแท้อ่อนแอเข้ามาพร้อมกันหมดเลย ฟาดลงหมอนหัวฟัดหมอนดังครอกๆ ตายทั้งเป็นพวกนี้ พวกตายทั้งเป็น กิเลสฟัดเอาๆ มันเป็นแต่อย่างนั้น เอาให้มันถึงพริกถึงขิงถึงเป็นถึงตายถึงกิเลสหงายมันถึงพูดได้เต็มปาก ถ้ากิเลสยังไม่หงายพูดไม่ได้นะมันตีปากเอา ถ้ากิเลสหงายแล้วตีปากกิเลสไปพร้อมๆ หมด ทีนี้พูดได้ พระพุทธเจ้าพูดได้ สามโลกธาตุสอนได้หมด นั่น เปิดหัวใจออกแล้วเปิดปากออกพร้อม เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหม
เอ้อ มันแปลกประหลาดยังไงก็ไม่รู้ เมื่อวานได้พูดอยู่ ได้สองสามคืนผ่านมานี้ มันแปลก ไม่ใช่นั่งภาวนานะ เราหลับ ปรากฏว่าท้าวสักกเทวราชมาขอฟัน ฝันนะไม่ใช่นั่งภาวนา เรานอนหลับฝัน ฝันว่าท้าวสักกเทวราชลงมา เป็นหัวหน้าบริษัทบริวารลงมา คำฝันมันชัดเจนมากนะ แต่ฝันไม่ใช่ภาวนา มาขอฟันเราไปกราบไหว้บูชา ให้ทวยเทพทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา นี่คำฝันนะ ถ้าคำฝันโกหกเราก็โกหกด้วย เพราะฝันอย่างนั้นจริงๆ ถึงท้าวสักกเทวราช แต่ในใจของเราก็ปลงใจให้นะ ปลงใจให้ฟัน มันมีฟันอันหนึ่งที่มันโยกคลอนอยู่ยังไม่ถอน ปล่อยมันไว้นั้นละ
พอดีท้าวสักกเทวราชมาขอฟัน เราในความรู้สึกในความฝันว่าได้ปลงใจให้ท้าวสักกเทวราช ฟันซี่นี้นะ พอตื่นเช้ามาฟันนี้หายเลย อันนี้เราก็อัศจรรย์เหมือนกัน ฟันที่ว่านี้มันโยกคลอนหายเลย ไม่ทราบหายไปไหน หลังจากฝันมาแล้วหายเลย นี่เป็นเองนะ เราเป็นเอง ฝันเองจริงๆ ท้าวสักกเทวราชมาขอฟันนั้น คำฝันไม่ใช่ภาวนา มาขอฟันเราก็ปลงใจให้ท้าวสักกเทวราช พอตื่นนอนขึ้นมาฟันซี่นั้นหายจริงๆ ไม่มีเหลือเลย ที่มันโยกคลอนมันจะหลุดอยู่ จะปล่อยให้มันหลุดเองเราว่างั้น พอดีท้าวสักกเทวราชมาขอไป คำฝันก็สดๆ ร้อนๆ พอตื่นขึ้นมาฟันหาย หายจริงๆ
มันก็แปลกนะ เป็นจริงๆ ก็มันเป็นกับเราเอง เราไม่ได้โกหกใคร โฮ้ เป็นอย่างนี้ก็เป็น พอตื่นนอนขึ้นมาฟันนี้หายแล้วไม่ทราบหายไปไหน คงเป็นท้าวสักกเทวราชเอาไป เอ้า ผิดก็ผิดผิดในคำฝันเป็นอะไรไป เราไม่ได้โกหก มันฝันว่างั้นเราก็พูดตามความฝัน พอท้าวสักกเทวราชมาขอฟันเราปลงใจให้นะ พอตื่นนอนขึ้นมาฟันซี่นี้หายเลย ที่มันโยกคลอนหาย หายเงียบเลย ได้สองสามวันนี้ เอ้อ อันนี้ก็แปลกอยู่
มันแปลกเราก็บอกว่าแปลก มันฝันไปอย่างนั้น ฝันว่าท้าวสักกเทวราชพร้อมกับบริษัทบริวารมา ไม่ใช่เรานั่งภาวนานะ ปรากฏมาจริงๆ คล้ายกับภาวนา แต่เวลานั้นมันฝันไม่ใช่ภาวนา มาขอฟัน พอตื่นนอนขึ้นมาฟันซี่นี้หายเลย หายเงียบ แต่คืนวันนั้นละ ไม่ทราบหายไปไหน คงไปแล้วละในคำฝันเรา ถ้าคำฝันโกหกเราก็โกหก พวกนี้ก็หูโกหกไปด้วยกันหมด มันแปลกอยู่นะ ตกลงฟันเราก็หายแต่คืนนั้นละ หายเงียบเลย ไม่ทราบไปไหน
(ที่ท้าวสักกเทวราชมาขอฟันหลวงตาน่ะ ว่าเอาขึ้นไปให้ทวยเทพเขากราบไหว้บูชา ถ้าให้มนุษย์แล้วมันยุ่งก็เลยขอ) คำฝันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็พูดอย่างนั้น ท้าวสักกเทวราชว่าถ้าให้มนุษย์มันยุ่ง เราพูดตามความฝัน คำฝันว่าไงเราก็พูดว่างั้น ไม่ใช่เป็นความรู้ทางด้านภาวนา มันฝัน แต่ว่าฟันซี่นี้หายจริงๆ นะ มันฝันอะไรก็ไม่รู้หายเงียบเลย (ท้าวสักกเทวราชสงสารพวกเรามวลมนุษย์ก็เลยเอาแต่ฟันไป ขอหลวงตาอยู่) แล้วตื่นขึ้นมาฟันหายเลย หายจริงๆ ก็พอดีกับที่เราปลงใจให้นะ ในคำฝันว่าปลงใจให้ พอตื่นขึ้นมาฟันซี่นั้นหายเลย
มันโยกคลอนเราปล่อยให้มันหลุดเอง ถ้าจะไปถอนมันเกิดเรื่อง ให้มันหลุดเองเราก็เก็บไว้เลย เราคิดว่างั้น พอดีท้าวสักกเทวราชมาขอเลยหายเงียบไปเลยนี่ก็ดี เอ้อ มันมีหลายแบบนะ อันนี้เป็นคำฝัน แต่อันนี้มันหายจริงๆ คำฝันฝันว่าอย่างนั้น แล้วฟันซี่นี้ก็หายไปจริงๆด้วย



DSC00630(1).gif

loungta maha bou

อัศจรรย์..อัครอรหันต์"หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" คุณอยู่ที่ >> หน้าหลักเว็บบอร์ด / มงคลพุทธวงศ์ / Detail ... Read 117748 , Reply 117 ถึงแม้ว่า จะเคยได้รู้ได้ยินได้ทราบถึงเรื่องราวแห่งอัจฉริยคุณและบุญญาบารมีอันยิ่งแห่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระธรรมวิสุทธิมงคลหรือที่รู้จักกันทั่วไปเป็นอย่างดีที่สุดในนาม"หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน" แห่งวัดป่าเกสรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) อ.เมือง จ.อุดรธานี มาเป็นเอนกปริยาย ด้วยระยะเวลานับเป็นทศวรรษ จนได้นำเสนอให้เป็นที่ล่วงรู้รับทราบกันทั่วไปอย่างตรงไปตรงมาและไม่มีปิดบังอำพรางใดๆทั้งโดยอนุโลมและปฏิโลม ตามควรแก่กาละและเทศะตลอดจนกุศลเหตุอันพิเศษที่จะพึงสอดแทรกเข้ามาตามวาระอันเหมาะสมโดยตลอด ด้วยเหตุที่ถือว่า "ความจริงก็คือความจริง" ไม่อาจลบเลือนดัดแปลงแก้ไขให้เป็นอื่นได้ เพื่อเป็นเครื่องเจริญศรัทธาและตอกย้ำปสาทะในองค์หลวงตาและบวรพระพุทธศาสนาให้หนักแน่นมั่นคงยิ่งขึ้นไป อันจะก่อให้เกิดเป็นมหาบุญและมหากุศลใหญ่ในฐาน"ปูชา จ ปูชนียานัง เอตัมมังคลมุตตมัง"และ"สัพพทานัง ธัมมทานัง ชินาติ"ทับซ้อนทบทวีกับบุรพเจตนาเดิมแห่ง"พุทธวงศ์"ที่กำหนดหมายให้เป็นขุมกุศลแห่งพระไตรรัตนบูชาอันยิ่งใหญ่อย่างไม่รู้ที่สุดสิ้นสืบไปเมื่อหน้า ความย่อมแจ้งตาแจ้งใจทั่วไปโดยลำดับอยู่แล้วนั้น....... DSC01772(2).gif โดย : "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) [ หน้าที่ 1 จาก 4 ] 1 2 3 4 ถัดไป> หน้าสุดท้าย>> IP : 203.156.22.xx | เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 10:24:32 น. ลำพัง "ฐานข้อมูลเดิม"ที่เกี่ยวเนื่องด้วยอัจฉริยคุณของท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนได้เคยล่วงรู้มาแต่ต้นจาก"พ่อแม่ครูอาจารย์" ตลอดจนหน่วยข่าวกรองและหน่วยสืบราชการลับทางจิตจำนวนมาก ก็มีอยู่อย่างหนาแน่นมิใช่น้อยแล้ว... ครั้นเมื่อมา"ตอกย้ำ"ด้วยหนังสือ"รวมเรื่องเล่า สิ่งที่เห็น" ซึ่งอาจที่จะกล่าวได้ว่าเป็น"ประวัติหลวงตาฯภาคอภินิหาร" ซ้ำเข้าไปอีก ก็ทำให้อดที่จะขนลุก พร้อมมารำพึงในใจเงียบๆคนเดียวไปเสียมิได้ว่า "สุดยอดพระอริยเจ้าระดับนี้ ที่น่าจะมีอยู่ในสมัยพุทธกาลเท่านั้น ยังจะมาปรากฏในยุคมืดยุคเสื่อม(อันตระวิวัฏฏะ)ดุจนี้ได้อีกหรือนี่..????" DSC04688(4).gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.22.xx | เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 10:45:12 น. และเพื่อเป็นการ"ต่อยอด"แห่ง"ศรัทธา" แห่งผู้ที่"รู้การ"เป็นอันดีอยู่แล้ว และเพื่อเป็นการ"อนุเคราะห์" ให้แก่ผู้ที่ยังไม่ทราบถึง "ความนัย"แห่ง"พระอัจฉริยเจ้า" ผู้ทรงอนุตรคุณอันสูงสุดจริงแท้ดังองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน องค์นั้นให้ได้รับทราบทั่วกัน จนอาจที่ก่อให้เกิดทิษฐิที่ถูกตรงและสรรค์สร้างแรงบันดาลใจที่จะกอรปแต่กุศลกรรมโดยส่วนเดียวให้เจิดจ้าอยู่ในท่ามกลางดวงใจแห่งศรัทธาตลอดไปตราบชั่วกาลเป็นปฐมเหตุ เวปไซต์"พุทธวงศ์"จึงจะได้ขอนำเสนออัจฉริยภาพและบุญญาภินิหารแห่งพระคุณหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน สรุปย่อออกมาเป็นตอนพิเศษ เพื่อเป็นวิทยธรรมทานมหากุศลสืบต่อไปในบัดนี้เลยเสียทีเดียว.... 20071272218371(1).jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.20.xxx | เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 21:49:53 น. "ในอนาคตเบื้องหน้า พระมหาบัวผู้นี้จักทำประโยชน์ใหญ่ให้แก่ประเทศชาติและพระศาสนา..!!!!" (พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ พระบุพพาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานกล่าวพยากรณ์ไว้เมื่อพ.ศ. 2482) a_mun(2)(1).gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.20.xxx | เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 22:25:47 น. "ท่านมหา...ท่านมหา..ขอใส่บาตรหน่อย" (พระอาจารย์มั่น กล่าวพร้อมกับลุกขึ้นมาใส่บาตรให้หลวงตามหาบัวสมัยอยู่ที่บ้านหนองผือด้วยมือของท่านเอง หรือที่สุดบางคราวท่านพระอาจารย์มั่นก็กรุณาเอา"ผ้าที่ท่านห่มพร้อมดอกไม้ธูปเทียน"ไปทอดผ้าบังสุกุลให้ถึงที่จำวัดของหลวงตามหาบัวด้วยเมตตาอันหาที่เปรียบมิได้เลยทีเดียว..!!!!!) 3.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.20.xxx | เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 22:28:20 น. "ท่านมหาบัวนี่แหละ ที่จะเป็นที่พึ่งของหมู่คณะในวันข้างหน้านะ.." (พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ) wi617.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.20.xxx | เมื่อ: 10 มิถุนายน 2551 เวลา: 22:31:33 น. "ในยุคบ้านหนองผือ พระอาจารย์มหาบัวลึกซึ้งมากทุกวิถีทาง ท่านพระอาจารย์มั่นไว้ใจมากกว่าองค์อื่นๆในกรณีทุกๆด้าน.." (หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดภูจ้อก้อ มุกดาหาร) untitled33.gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.23.xx | เมื่อ: 11 มิถุนายน 2551 เวลา: 8:27:03 น. "หลวงตามหาบัวเป็นพระอรหันต์ร้อยเปอร์เซ็นต์ พันเปอร์เซ็นต์..!!!!" (หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สุพรรณบุรี) sangwanandbua.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.23.xx | เมื่อ: 11 มิถุนายน 2551 เวลา: 8:31:41 น. "หลวงตามหาบัวเป็นพระอรหันต์อันดับหนึ่งของประเทศไทย เพราะมีบารมีมากเหนือใครๆ ฤทธิ์ก็เยอะนะ..!!!!!" (หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สุพรรณบุรี) 20060710171340(4).jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.23.xx | เมื่อ: 11 มิถุนายน 2551 เวลา: 8:49:34 น. "บุญอะไร ก็ไม่เท่าบุญที่ทำกับหลวงตามหาบัว..." "เสียดายที่โยมพ่อโยมแม่ของอาตมาตายไปเสียก่อน หาไม่แล้ว จะต้องให้มาทำบุญกับหลวงตาเสียเลยทีเดียว..!!!!" (หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สุพรรณบุรี) DSC07180.gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.23.xx | เมื่อ: 11 มิถุนายน 2551 เวลา: 8:54:40 น. "สิ่งที่หลวงตามหาบัวทำ ถูกต้องทุกอย่าง อาตมาไม่มีข้อสงสัย..ให้ทำตามหลวงตาให้หมด" (หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สุพรรณบุรี) sudtai27.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.23.xx | เมื่อ: 11 มิถุนายน 2551 เวลา: 9:13:45 น. "ในยุคนี้ ไม่มีใครเกินหลวงตามหาบัว..!!!!" (หลวงพ่อแนน สุภัทโท วัดซำขาวถ้ำยาว จ.ขอนแก่น) sudtai29.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.23.xx | เมื่อ: 16 มิถุนายน 2551 เวลา: 14:36:14 น. "พระนักเทศน์ ใครๆก็รู้จัก..." หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์ b20021114212505.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.23.xx | เมื่อ: 16 มิถุนายน 2551 เวลา: 14:40:21 น. "ผมยอมท่านอาจารย์(หลวงตามหาบัว) ดูลักษณะท่าทางนี่ไม่ผิดกับท่านอาจารย์มั่น ผมจับได้หมดเลย ผมเคารพสุดยอด!!!!" หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตปฏิปทาราม ปทุมธานี 19.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.21.xx | เมื่อ: 16 มิถุนายน 2551 เวลา: 15:04:29 น. "ให้รีบไปกราบหลวงตามหาบัวเสียไวๆที่สุดเถิด เพราะหลวงตาท่านเข็นสังขาร(ต่ออายุ)มาให้นานถึง 10 กว่าปีนี่แล้วน๊ะ!!??!!" พระอาจารย์แบน วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร(กล่าวกับศิษย์ตอนหลวงตามหาบัวเจริญอายุได้ 90 ปี) หมายเหตุ ,1. เป็นที่ทราบกันวงในว่า แท้จริงนั้น หลวงตามหาบัวท่านหมดอายุขัยตั้งแต่ตอนที่ท่านอายุได้ 80 ปีแล้ว โดยช่วงนั้น หลวงตามหาบัวอาพาธหนักมาก(มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 4 ) และสั่งให้เตรียมสร้างเมรุเพื่อปลงสังขารของท่านเองที่วัดป่าบ้านตาดไว้เรียบร้อยแล้วด้วย แต่พอดีช่วงนั้น(พ.ศ. 2540) ประเทศไทยกำลังประสพวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนัก ใกล้ล้มละลายเต็มที หลวงตามหาบัวสงสารลูกหลานไทยว่าจะถึงความพินาศวอดวายกันหมดทั้งชาติไปเสียเปล่า ท่านเลยต้องเจริญ"อิทธิบาทภาวนา" ต่ออายุองค์ท่านเองด้วยกำลังฌาณและอรหันตฤทธิ์ที่ทรงอานุภาพอย่างเยี่ยมยอด จนสามารถระงับยับยั้งอาการอาพาธ(มะเร็งขั้นสุดท้าย)ให้สงบราบคาบได้เหมือนปลิดทิ้ง อีกทั้งยังมีกำลังวังชาแข็งแกร่งเหมือนมิได้เป็นอะไรมาก่อนออกบิณฑบาตทองคำและดอลล่าร์ เพื่อ"ช่วยชาติ"ให้พ้นจากหายนภัยจนประสพผลสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติสยาม โดยได้ทองคำเข้าคลังหลวงถึงกว่า 10 ตัน และเงินดอลล่าร์อีก 10 ล้านดอลล่าร์ ดังเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไปแล้วนั่นเอง... 2. ตอนนี้ หลวงตามหาบัว ท่านมีอายุได้ "95" ปีแล้ว นี่ก็เท่ากับว่า หลวงตาท่าน"ยืดอายุโปรดโลก"มานานถึงกว่า "15" ปีแล้ว จึงนับเป็นพระคุณและวาสนาล้นเหลือแก่ผู้ที่ปรารถนาจะได้พบได้เห็นได้กราบได้ไหว้และได้ทำบุญกับ"อัครอรหันต์"ผู้ซึ่งทำประโยชน์ใหญ่ให้กับประเทศชาติและพระศาสนาด้วยฤทธิ์และบุญบารมีอันสูงสุดดุจนี้อย่างแท้จริงเลยทีเดียว DSC04718.gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.21.xx | เมื่อ: 16 มิถุนายน 2551 เวลา: 15:16:51 น. "เมตตาของหลวงตามหาบัวที่ได้ออกมาทำโครงการผ้าป่าช่วยชาตินั้น เปรียบเสมือนกับผืนแผ่นฟ้าที่ห่มคลุม(ปกป้อง)แผ่นดินไทยไว้ทั้งหมดเลยทีเดียว..!!!!!" สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร 6140.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.21.xxx | เมื่อ: 18 มิถุนายน 2551 เวลา: 8:54:25 น. "ถ้าไม่(ทรงคุณธรรม)"ถึงขั้น"จริงๆแล้วละก็ จะถามปัญหาแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ..!!?!" หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ กล่าวชมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนในการสนทนาถามปัญหาธรรมครั้งหนึ่ง b20021114212656.gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.21.xxx | เมื่อ: 18 มิถุนายน 2551 เวลา: 9:00:15 น. สาธุ....... DSC06836.gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.21.xx | เมื่อ: 23 มิถุนายน 2551 เวลา: 9:45:54 น. "หลวงตามหาบัวเคยเล่าให้หลวงตาพุธฟังครั้งหนึ่งว่า.... แต่ก่อนนั้น หลวงตาอยากเป็นพระ เมื่อได้บวช ก็เป็นพระสมใจแล้ว ต่อมา หลวงตาอยากเป็นพระมหา สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ก็ได้ชื่อว่า"มหาบัว"สมดังปรารถนาแล้ว ต่อมาอีก หลวงตาอยากเป็นพระนักปฏิบัติ ก็ออกธุดงค์วัตรปฏิบัติธรรม ก็ได้ชื่อว่าเป็นพระนักปฏิบัติแล้ว ครั้นสุดท้าย หลวงตาอยากสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเต็มกำลัง แต่...คราวนี้ "ความอยากเป็นพระอรหันต์"ไม่รู้หายไปไหนหมดแล้ว...!!??" DSC07394.gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.21.xx | เมื่อ: 23 มิถุนายน 2551 เวลา: 10:09:53 น. และหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ก็สรุปในตอนสุดท้ายว่า "นี่แหละ ท่านผู้เป็นพระอรหันต์ หมดอาสวกิเลสแล้วอย่างแท้จริง ย่อมเป็นอย่างนี้นี่แล!!!!!" หมายเหตุ, เรื่องหลวงตามหาบัวตอนนี้ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมาได้เคยเล่าให้ได้ฟังซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่หลายวาระด้วยกันก่อนที่ท่านละสังขาร เหมือนจะแสดง"ความนัย"บางประการให้ปรากฏ เห็นมีเนื้อหาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงขอนำมาเผยแพร่ ณ. ที่นี้ เพื่อให้ได้ร่วมอนุโมทนาเป็นมหากุศลทั่วกันทีเดียว DSC07375(1).gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.25.xxx | เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:19:46 น. "อรหันต์เหมือนกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน(บารมี)....!!!!" "จากนี้ไป ต่อให้เกิดอีกสิบชาติร้อยชาติ ลูกหลานทั้งหลายก็ไม่มีทางที่จะเจอพระอรหันต์(ที่มีบารมีล้นฟ้า)อย่างหลวงตามหาบัวอีกแล้วนะ ให้รีบไปทำบุญกับท่านไวๆเถิด ประเสริฐที่สุดแล้วจริงๆ!!!!!" พระอริยะสายกรรมฐานองค์สำคัญที่หลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัตตปฏิปทารับรองว่า "มีพลังจิตเทียบเท่ากับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร"(ขอสงวนนาม)กล่าวกับศิษย์ใกล้ชิดไว้ครั้งหนึ่ง DSC08357.gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.25.xxx | เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:22:34 น. ท่าน ก.เขาสวนหลวงยกย่องหลวงตามหาบัว สายสัมพันธ์ในธรรม..ของท่านมิได้จำกัดในหมู่เพื่อนบรรพชิตเท่านั้น.... มีฆราวาส จำนวนมากที่สนใจประพฤติปฏิบัติธรรมและสำหรับผู้ที่มีความมุ่งมั่นจริงจังไม่ว่าเพศภูมิใด ย่อมประจักษ์ผลแห่งธรรมภายในใจ....ขึ้นเป็นลำดับๆ ไป นักภาวนาหญิงหรือชาย นั้นจะให้เหตุผลแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไรหลวงตาท่านเคยได้ให้เหตุผลว่า "........การปฏิบัติไม่มีเพศ เรื่องมรรคผลนิพพานแล้วไม่เพศ เหมือนกับกิเลสไม่มีเพศ มีได้ด้วยกันทั้งนั้น ความโลภก็มีได้ทั้งหญิงทั้งชาย ความโกรธ ความหลง ราคะ ตัณหา มีได้ด้วยกัน มัชฌิมาปฏิปทา จึงมีได้ทั้งหญิงทั้งชาย เป็นเครื่องแก้กิเลสทั้งหลาย แก้ได้ด้วยกันทั้งนั้น ด้วยอำนาจความสามารถ ของตนแล้ว มีทางหลุดพ้นได้ด้วยเช่นเดียวกัน..." ด้วยเหตุนี้เองเมื่อโอกาสอำนวย...ท่านจะไปเยี่ยมเยียนถึงสำนักผู้ปฏิบัติธรรมเหล่านั้นเสมอ ... เช่น สำนักชีบ้านห้วยทราย ของคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ สำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวงของอุบาสิกากี นานายน ในตอนนี้จะขอเล่าถึงตอนที่ท่านแวะเยี่ยมสำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง ดังนี้ ท่านเคยได้ยินกิตติศัพท์ชื่อเสียงของคุณยาย ก. เขาสวนหลวง มานนานแล้วว่าเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบควรแก่การเคารพกราบไหว้ แต่มีข้อประหลาดใจอยู่อย่าง หนึ่งคือ เขาว่ากันว่าคุณยายเป็นคนไม่เอาพระ คือไม่ต้อนรับพระ สิ่งนี้จึงทำให้หลวงตาฯ อยากรู้ว่าเป็นจริงหรือ ? หรือว่ามีเหตุผลด้วยประการใดกันแน่ เพราะหากเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจริงๆ แล้ว ลักษณะเช่นนี้ไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้ ท่านจึงไม่อยากเชื่อข่าวลือนี้นัก เหตุนี้เอง เมื่อมีจังหวะมาถึงในคราวท่านมากรุงเทพฯ เพื่อดูแลอาการอาพาธของท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) ชึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเองที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อได้โอกาสอันควร ท่านจึงได้ไปเยี่ยมเยียนคุณยาย ก. ถึงสำนักฯ เขาสวนหลวง จ.ราชบุรี ด้วยตนเองเลยทีเดียว... พอเข้าไปถึงสำนักเท่านั้น ไม่นานก็มีเสียงระฆังเคาะดังกังวานขึ้น เรียกให้สตรีนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายพากันหลั่งไหลมากราบท่าน และให้การปฏิสันถารต้อนรับ เป็นอย่างดี โดยมีคุณยาย ก.เป็นหัวหน้าอยู่ ณ ที่นั้นด้วย หลังจากสนทนาพูดคุยกันได้ไม่นาน คุณยายกราบอาราธนานิมนต์ให้หลวงตาฯ แสดงธรรมแก่เหล่าอุบาสิกานักปฏิบัติธรรมทั้งหลายท่านจึงแสดงธรรมเน้นเรื่องจิตภาวนาเป็นสำคัญ... ทราบว่าหลังการแสดงธรรมคุณยายถึงกับประกาศขึ้นด้วยความอาจหาญในธรรมปฏิบัติของคุณยายเองแก่บรรดาลูกศิษย์ในสำนักว่า "ธรรมที่ท่านอาจารย์ได้แสดงให้ พวกเราฟังนั้น สามารถยึดถือเป็นหลักประพฤติปฏิบัติได้ถูกต้องไม่มีผิดพลาด แม้เปอร์เซ็นต์เดียว" เหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นที่ประจักษ์แก่ตัวท่านเอง ดังคำกล่าวที่ท่านเล่าให้ผู้มากราบเยี่ยมคณะหนึ่งฟังว่า "ที่ว่าคุณยายไม่ต้อนรับพระนั้น หมายถึง พระประเภทโกโรโกโสไม่ได้เรื่องได้ราวต่างหาก ถ้าเป็นพระเคารพธรรมเคารพวินัยคุณยายท่านก็ไม่เป็น ....จะว่าอะไร แม้แต่เราเองก็ไม่ต้อนรับพระประเภทนั้นเหมือนกัน..." คัดจาก"หนังสือหยดน้ำบนใบบัว หน้า 213 -214 "ประวัติหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.25.xxx | เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:43:24 น. "เทวดา อินทร์ พรหม ทราบหมดในเรื่องของเรา..!!!!!" หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี DSC08410.jpg41.gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.25.xxx | เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:45:22 น. 2007127221021.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.25.xxx | เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:46:35 น. 2007127221531.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.25.xxx | เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:47:40 น. 20071272212311.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.25.xxx | เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา: 15:49:17 น. 20071272213221.jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.25.xx | เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา: 8:30:24 น. มหาอนุโมทนา พระอริยะผู้กล้ากู้แผ่นดินแห่งสยามประเทศ พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เกริ่นนำ สำหรับข้อเขียนต่อไปนี้ ผู้เขียนได้เขียนถวายบูชาพระคุณแห่งท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ในฐานแห่งผู้ที่”รัก”ความจริง”และ”ถือ”ความจริงอันสูงสุดเป็นสรณะโดยส่วนเดียว อย่างไม่มีการเห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น โดยที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่สุดแห่งความเคารพสักการะบูชา หาได้เขียนในฐานะที่เป็น”ศิษย์”ในองค์หลวงตามหาบัวเป็นการส่วนตัวแม้สักน้อยไม่ เพราะผู้เขียนหาได้มีจริตนิสสัยและวาสนาเพียงพอที่จะ”นิพพานชาตินี้”ตามเบื้องบาทแห่งท่านแต่อย่างไรไม่ด้วย ฉะนั้นข้อความต่อไปนี้ จึงมั่นใจได้ว่า มีความเป็น”กลาง”อย่างยิ่ง อันใครๆจะพึงกล่าวหาว่า นี้เป็นการเขียนเพื่อ”เชียร์อาจารย์ตัวเอง”มิได้เลย จึงขอแจ้งมาเพื่อทราบและความเข้าใจอันดีโดยทั่วกัน....... ************************************ แม้โดยจริตนิสสัยส่วนตัวของผู้เขียน จะมิมีวาสนาใกล้ชิดผูกพันในองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานีมาแต่ไหนแต่ไรก็ตามที แต่ด้วยความที่เป็นคนที่รักความ”ถูกต้อง”และความ”เที่ยงธรรม”เป็นที่ยิ่ง อย่างไม่มีการเห็นแก่หน้าผู้ใดเป็นสรณะ เมื่อได้เห็นพระหรือโยมคนไหนทำดีแท้ แน่จริง ก็อดให้ตั้งกัลยาณจิตร่วมอนุโมทนาสาธุการไปด้วยเสียมิได้ ไม่นิยมในอันที่จะ”แบ่งแยก”เราเขาให้เสียอารมณ์และความ”เป็นกลาง”เป็นอันเด็ดขาด ชมชอบเป็นที่สุดที่จะยึดถือ”สัจจะ”ความถูกต้องตามความเป็นจริง เป็นหลักใจอย่างสูงสุดทุกเมื่อ ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระองค์ไหน ใครคนหนึ่ง หากเป็นคนดี พระดีแท้แน่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นศิษย์เป็นอาจารย์ หรือต้องมีความผูกพันกันมาแต่ชาติปางไหน ผมก็ไม่รีรอที่จะ”เผย”คุณงามความดีแห่งท่านๆนั้นๆให้ทุกคนได้ล่วงรู้และรับทราบกันต่อไป หากนี้จะถือว่าเป็น”บุญ” ผมก็ขออุทิศบุญนี้ให้แก่ทุกๆท่านอย่างไม่หวงแหนต่อไปอีกทอดหนึ่งด้วย แจ้งความในใจให้ทราบกันเป็นปฐมก่อนอย่างนี้ และแน่นอน อันองค์ของท่านเจ้าคุณพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโนนี้ โดยเนื้อแท้แห่งจิตวิญญาณแล้ว ท่านก็คืออีกหนึ่งในพระดีมากๆ ถึงมากที่สุดอย่างไม่ใครต้องสงสัย ก็หากจะเรียกท่านว่า เป็นพระ”อัจฉริยาริยเจ้า”(อัจฉริยะ+อริยเจ้า) แห่งประวัติศาสตร์ของชนชาติสยามที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์เลย ก็อาจที่จะว่าจะกล่าวได้ไม่ผิดคำ ดูแต่”โครงการช่วยชาติ”ที่ท่านสู้อุตส่าห์ยอม”เปลืองตัว” ให้เป็นขี้ปากชาววัด ชาวบ้านได้นินทาว่าร้ายป้ายสีอย่างเลือดไหลโชกๆ ออกมาบิณฑบาต”ทองคำ”และ”ดอลล่าร์” เพื่อมาเป็นทุนสำรองในธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อ”กู้แผ่นดิน”ให้พ้นจากสภาวะวิกฤติทางการเงินที่ผ่านมาแต่เพียงอย่างเดียว ก็สะท้อนให้เห็นถึง”อริยปัญญา” อันแยบยลและ”มหาเมตตา มหากรุณา”อันลึกซึ้งยิ่งใหญ่ จนเกินกว่าที่สามัญปุถุชนทั่วไปจักคาดคิดถึงได้อย่างชัดเจนที่สุดแล้ว ก็อย่าว่าแต่คนไหนใครอื่นเลย แม้แต่ตัวของผู้เขียนคนนี้เอง แต่แรกก็ยังนึกประมาทท่าน ตามประสาคนโง่ที่ยังไม่มี”ปัญญาจักษุ”อย่างรู้แจ้งแทงตลอดเอาเสียเลยทีเดียวว่า ”วิริยาธิกะจริงๆ......” ”วิริยาธิกะแท้ๆ......” หรือหากจะว่าตามเรื่องของ”พระมหาชนก” ผมก็คงไม่แคล้วต้องว่าบทของ”นางมณีเมขลา”ที่กล่าวกับพระมหาชนกที่เรือแตก แล้วกำลังแหวกว่ายอยู่กลางมหาสาครใหญ่ที่ว่า ”นี้ใคร...เมื่อยังไม่เห็นฝั่ง ก็ยังพยายามว่ายน้ำนักหนาอยู่เห็นปานนี้....???” ก็”หนี้ต่างประเทศ”ที่มีจำนวนมากนับเป็น”ล้าน*ล้าน”บาท ตลอดจน”ทองคำ”และ”ดอลล่าร์”ในท้องพระคลังหลวง ที่ถูก”ผลาญ”ละลายแม่น้ำเจ้าพระยาทิ้งไปอย่างไม่สมควรจนแทบจะหมดแบงค์ชาตินั่นแหละครับ คงไม่ต้อง”ลำเลิก”ก็น่าจะรู้ดีหรอกนะครับ ว่างานนี้ “ฝีมือ”ของผู้ใด??? ก็”ทอง”และ”ดอลล่าร์”ที่หลวงตามหาบัวรับบิณฑบาตมาในช่วงแรกๆไม่กี่บาทกี่ชั่งนั้น จะทำอะไรได้เล่า ช่างไม่อาจจะถึงการเปรียบ ไม่ถึงการเทียบกับ”หนี้ของแผ่นดิน”ที่สุมหัวทุกคนอยู่ แม้เศษหนึ่งส่วนเสี้ยวที่สิบหกเลยจนนิดเดียว ดูแล้ว ออกจะเป็นเรื่องที่”เหนื่อยเปล่า”และ”เป็นไปไม่ได้”อย่างแท้ๆ เพราะสถานการณ์ทั้งนั้น ไม่แตกต่างอะไรกับการพยายามของ”พระมหาชนก”เมื่อครั้งกระนั้นเลยแม้สักน้อย แต่พอครั้นได้”รู้แจ้ง”ถึง”ความนัย”ทั้งปวงแล้ว ผมก็แทบจะต้องตบกระโหลกตัวเอง ในฐานที่”ง่าวจ๊าดนัก” ด้วยไม่เข้าใจในเจตนารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในจิตใจเบื้องลึกที่สุดแห่งองค์ท่านมาเป็นนานสองนาน สำหรับเหตุผลที่ท่านหลวงตาเคยว่าไว้ก็คือ หากจะมามัวทอดอาลัยไม่ทำอะไร หรือมามัวแต่นั่งเคียดขึ้งกับคนที่ก่อเรื่องแล้ว ก็หาได้มีประโยชน์อันใดแม้สักน้อยหนึ่งไม่ คงมีแต่”ตายกับตาย”อย่างที่ไม่เหลือคุณค่าให้ใครๆมาเห็นหัวได้อย่างแน่นอน ฉะนั้น ท่านหลวงตามหาบัวจึงกระทำการตามเยี่ยงอย่างหน่อพระโพธิสัตว์”พระมหาชนก”ด้วยการ.... แม้ไม่เห็นฝั่ง ก็จักว่ายอยู่ไม่หยุด แม้ไม่มีความหวัง ก็ยังคงก้าวต่อไปไม่ยั้ง และ แม้จะไม่เห็นผลที่สำเร็จ ก็ยังจะพยายามต่อไปตราบจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย.......... แม้ตาย ก็นับว่า ไม่เป็นหนี้แก่ผู้ใด ก็”เพียร”แล้ว ก็”พยายาม”อย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว ผู้มีใจอันเป็นธรรมคนใดๆจักอาจจะว่าจะกล่าวจะตำหนิต่อผู้”ทำความเพียร”ได้เล่า อีกทั้งการ”ช่วยชาติ”ดังนี้ หาใช่เป็นไปเพราะ”ตัวเอง”เพียงคนเดียวให้พ้นจากการจ่อมจมในห้วงแห่ง”ธนสาคร”ก็หามิได้แต่ประการใดทั้งสิ้น แต่เป็นการช่วยทั้ง”คน” ช่วยทั้ง”ชาติ”รวมหมดถึง”พระศาสนา”ทั้งหมดในคราวเดียวกันนี้นั่นเลยทีเดียว แล้วตอนนี้ ผลแห่ง”ความเพียร”ของท่านหลวงตา ก่อให้เกิดผลอันยิ่งใหญ่เห็นปานใด??? ขวัญกำลังใจและเศรษฐกิจของชาติโดยรวม จากที่ใกล้ล่มสลายหายนะเต็มที กลับพลิกฟื้นขึ้นมาอย่างน่าหวาดเสียวที่สุดได้ หากมิใช่เพราะ”ญาณปัญญา”และการ”ทำจริง”ของหลวงตามหาบัวแล้ว จะนับเป็นฝีมือของบุคคลใดใครที่ไหนกันอีกเล่า..??? เงินตราและทองคำสำรองในคลังหลวงของประเทศชาติไทยตอนนี้ เพิ่มทวีมากขึ้นเท่าไร ใครรู้บ้าง.??? เสถียรภาพและความมั่นคงของค่าเงินบาทที่เพิ่มค่าแข็งแกร่งขึ้นทุกทีๆ หากไม่มีทองคำและดอลล่าร์ที่หลวงตาเพียรบิณฑบาตหามาค้ำประเทศชาติไว้อย่างสุดชีวิตถึงกว่า 11,000 กิโลกรัม(11 ตัน) จะยังมีวันนี้ได้อยู่อีกล่ะหรือ..???? ขอพี่น้องท่านทั้งหลาย จงพินิจพิจารณาตริตรองด้วยความให้จงดีเป็นธรรมเถิด แต่โดยส่วนตัวของผู้เขียนแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งชวนให้ต้องคิดหนักเข้าไปอีกว่า ก็อันอัจฉริยบุคคลผู้มีจริตนิสสัยหาญกล้า ถึงพร้อมด้วยภูมิปัญญา ตลอดจนความเมตตากรุณาและเสียสละเพียบพร้อมอย่างยิ่งใหญ่จนกระทั่งถึงขั้นกล้า”ตัดคอรอง”ให้กับส่วนรวมและประเทศชาติได้เห็นปานนี้ คงจะมิใช่”สามัญบุคคล”มาแต่เดิมอย่างไม่ต้องสงสัย ค่อนข้างจะแน่นอนเสียเหลือเกินว่า หลวงตามหาบัวท่านคงจะมีจริตนิสสัยและบำเพ็ญบารมีในเชิง”พุทธภูมิ”มาก่อนอย่างยากที่จะคิดให้เป็นอื่นได้ อธิวาสนาและอธิบารมีแห่งท่าน ถึงได้ยิ่งใหญ่และไพศาลเกินกว่าที่”สาวกภูมิ”ธรรมดาทั่วไปจึงพึงยังให้มี ให้เป็นไปเห็นปานนี้ได้ ต่อเมื่อได้มาอ่าน”อาจาริยธรรม”แห่งท่านในหนังสือ”บูรพาจารย์”แล้ว จึงได้”แจ้งใจ”อย่างสิ้นเชิงทีเดียว ดังมีบันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า "...ในยามที่พระเณรมีข้อผิดพลาดขึ้นคราใด ท่าน(หลวงตามหาบัว)มักจะออกรับผิดกับท่านพระอาจารย์มั่นแทนหมู่เพื่อน ชนิดยอมตัดคอออกรองเลยก็ว่าได้... ท่านจะรีบดึงปัญหานั้นเข้าหาตัวท่านเองทันที เพราะเห็นหมู่เพื่อนพระเณรเกรงกลัวท่านพระอาจารย์มั่นมาก ทำให้ท่านรู้สึกสงสารและเห็นอกเห็นใจ อีกทั้งความจงใจทำผิดก็ไม่มี จะมีบ้างก็เป็นข้อผิดพลาด(เล็กน้อย)บางประการเท่านั้น สำหรับท่านเองก็พออดพอทนได้ หากว่าท่านพระอาจารย์มั่นจะเคาะจะตีอะไร ท่านก็อดทนเอา.... แต่เมื่อนานๆไป ความผิดพลาดมีบ่อยครั้งเข้า และทุกครั้ง ก็จะมี"ท่านมหาบัว"ออกหน้ารับผิดทุกครั้งไป ท่านพระอาจารย์มั่นจึงดุเอาอย่างรู้ทันทีเดียวว่า "ใครผิดหัววัดท้ายวัดก็มหา ใครผิดท้ายวัดหัววัดก็มหา..เอะอะก็มหาผิด..เอะอะก็มหาผิด!!!" "มันจะโง่ขนาดนั้นหรือมหานี่น่ะ..หือ..หือ..!!?!" ก็ด้วยจริตนิสสัยแห่งความเป็น”ผู้นำ”ที่กล้ารับทั้ง”ผิด”และ”ชอบ”แทนผู้อื่นอย่างไม่กลัวเจ็บ ที่ได้ฉายแววให้เห็นตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่มๆอยู่เห็นปานนี้ จึงไม่น่าแปลกใจอันใด ที่หลวงตามหาบัวจะหาญกล้า”ออกหน้า”มาเป็น”ผู้นำ”ในการ”ช่วยชาติ”อย่างไม่มีความอาลัยแก่ชีวิต โดยมิพักจะใยดีต่อคำครหานินทาของผู้ที่”ไม่เข้าใจ”หรือ”ไม่ยอมเข้าใจ”ทั้งหลาย ที่อื้ออึงไปทั่วทุกสารทิศแต่อย่างไรทั้งสิ้นไม่แม้จนนิดเดียว เพื่อยังส่วนรวมให้รอด หาได้มีสิ่งอื่นใดสำคัญยิ่งไปกว่านี้แล้วไม่ แม้บางครั้ง จำจะต้องปล่อย "บัวใต้น้ำ" จำนวนไม่น้อยให้ต้องตกเป็นภักษาหารแก่เต่าและปลาไปต่อหน้าต่อตา นั่นคือการดำดิ่งลงสู่อบายภูมิ จากการปรามาสพระอริยเจ้าชั้นสูงและขัดขวางการช่วยชาติและพระศาสนาให้คงอยู่ ซึ่งเท่ากับเป็นการทำลายให้ชาติและบวรพระพุทธศาสนามีอันต้องถึงแก่กาลอวสานโดยตรง อันย่อมเป็นกรรมอันหนักอย่างสาหัสที่สุด ไม่มีใดจะเปรียบปานได้ก็ตามที การย่อมเป็นดังอริยวาทะของพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลองค์หนึ่งท่านได้กล่าวไว้อย่างชัดแจ้งว่า "สัตว์โลกย่อมพินาศเพราะความไม่รู้แจ้ง" นั่นก็คือ "ถูกคือถูก....ผิดคือผิด"อย่างเด็ดขาด และวาทะโลกที่ว่า "ผู้ไม่รู้ไม่ผิด" หาได้เป็นข้อยกเว้นที่จะปฏิเสธในอันที่จะไม่รับผลทั้งดีและร้ายที่ตนเองได้ทำไว้เองแต่อย่างไรไม่ "สัตว์โลก"ทั้งหลาย มีหน้าที่ใฝ่หาความ"รู้แจ้ง"กันเอาเอง หากไม่หา แล้ว"ทำผิด" ก็ต้องเสวยผลอันเป็นทุกข์ ด้วยตัวเอง ใครอื่นเลย จักช่วยได้เล่า..??? และแน่นอน มหาบุญแห่งการ"ช่วยชาติ"ในครั้งนี้ ท่านว่า"ยิ่งใหญ่"นักหนา.... เพราะนี้เป็นการกู้ชาติทั้งชาติ กู้ศาสนาทั้งศาสนาให้รอดพ้นจากการตกอยู่ในมือของ”ต่างชาติ”นอกพระพุทธศาสนา ที่จะใช้เกมทาง”สงครามเศรษฐกิจ”มาย่ำยีบีฑาและบดขยี้ชาติไทยและบวรพระพุทธศาสนาให้ดับสูญสิ้นไปในคราวเดียวอย่างแยบยลและน่าขนพองสยองเกล้าเป็นที่สุดนั่นเอง ช่างเป็นบุญอย่างเหลือเกิน ที่บวรพระพุทธศาสนาและประชาชาติไทยยังได้มี”สุดยอดพระดี”อย่างท่านเจ้าคุณพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มา”ยกชาติ”ให้พ้นภัยได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุดเห็นปานนี้ ต่อให้ตายแล้วเกิดใหม่สักสิบชาติ ร้อยชาติ โดยส่วนตัวของผู้เขียนเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เราท่านทั้งหลาย ยังจะมีโอกาสวาสนาได้พบพานกับพระเอกอัครขีณาสวเจ้าผู้ใจเด็ดและหาญกล้าเสมอด้วยท่านหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโนนี้อีกหรือไม่..???? ฉะนั้น เมื่อขณะมีอยู่เฉพาะหน้าเห็นปานนี้แล้ว ก็ขอท่านทั้งหลายจงอย่าได้พลาดโอกาส”ทองคำลงยาฝังเพชร”ที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนท่านได้ให้โอกาสแก่ทุกๆคนได้สร้างมหากุศลอันใหญ่หลวงที่สุดในการ”ช่วยชาติ”ในคราครั้งนี้ไปเปล่าเลย................ นมัสการอริยผู้ อรหันต์ บริสุทธิ์ดุจดวงตะวัน ส่องด้าว เมตตาพระมหันต์ นักยิ่ง นาพ่อ ยกไทยพ้นรวดร้าว เทวษไห้ ขุกเข็ญ ล่วงเลยใช่ล่วงแล้ว เพียงองค์ กรุณาพระธำรง ท่วมฟ้า โปรดสัตว์เร่งจำนง จ่ายแจก อนุเคราะห์สัตว์ทั่วหล้า ก่อนกี้ สุดพรรณา ถึงคราวไทยเร่าร้อน สุดประมาณ เศรษฐกิจล้วนแหลกลาญ ทั่วหล้า ดั่งต้องโทษประหาร ปลิดชีพ มหาชนต่างอ่อนล้า ชอกช้ำ สุดฝืน น้ำตาทุกข์ยากไร้ ท่วมดิน หลวงตาย่อมยลยิน แน่แท้ แสนสงสารไทยสิ้น ที่พึ่ง ท่านจึ่งจำเร่งแก้ ชาติพ้น ภัยพาล จากป่าออกบากหน้า สู่เมือง บิณฑบาตทองเมลือง เลื่องค่า ใส่กายก็เรืองเหลือง เพียงอาตม์ หาได้ชูเชิดหน้า แผ่นพื้น ไผทสยาม เงินทองดอลล่าร์ล้วน ประสงค์ มาค้ำเงินบาทยง ยิ่งฟ้า ต่างชาติย่อมจำนง เปลี่ยนแลก ยินดีมาขายค้า พรั่งพร้อม ทั่วสกล บุญใดฤาเทียบเท่า กู้แผ่นดิน ยกชาติทั้งธรณิน นี่นี้ คุ้มศาสน์พ้นพังภินท์ พินาศ อานิสงส์ท่านจึ่งชี้ ยิ่งล้ำ เลอสรวง แลฤาคือท่านแท้ มหาบัว ดั่งพ่อแม่ของทุกทั่ว แน่แล้ว เมตตาพระเหนือหัว ทุกผู้ คุ้มเกศดั่งกลดแก้ว กางกั้น เกศี ขอจำรำลึกไว้ กลางใจ ทั่วภพจบวัฏฏ์ไกล ไป่สิ้น บุญคุณพระยิ่งใหญ่ เกินพร่ำ แม้ชีพจักด่าวดิ้น ไม่สิ้น อนุสรณ์ ญาณสัมปันโน มหาเถเร ปมาเทนะ ทวาระกะเตนะกะตัง สัพพัง อะปะราทัง ขะมะตุโน ภันเต _1_908(3).jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.25.xx | เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา: 8:32:03 น. อนึ่ง ทราบเป็นการภายในมาว่า เหตุที่ว่า การช่วยชาติของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนในครั้งนี้ มีอานิสงส์ใหญ่ยิ่งที่สุด หาใดเปรียบมิได้นั้น ก็เพราะ 1.เงินทองหรือดอลล่าร์ที่ถวาย นับเป็นทรัพย์สิน"ของสงฆ์"(สังฆทาน) ซึ่งมีอานิสงส์มากอยู่แล้ว 2.คณะสงฆ์โดยมีหลวงตามหาบัวเป็นองค์ประธาน ได้มีสังฆมติยกให้เป็นทรัพย์รักษาแผ่นดิน ยิ่งได้บุญทับซ้อนยิ่งๆขึ้นไปอีก 3.ทรัพย์แผ่นดินทั้งทองคำและดอลล่าร์นี้ เมื่อเข้าสู่คลังหลวง ก็เท่ากับ"ช่วยชีวิต"และ"รักษาลมหายใจ"ของคนไทยทั้งประเทศทุกคนรวดเดียวถึงกว่า 60 ล้านคนให้คงดำเนินอยู่ต่อไปได้ (ให้ชีวิตคน 60 ล้านคนเป็นทาน) ซึ่งได้กุศลไม่สุดสิ้น ยิ่งกว่าการไถ่ชีวิตโคกระบือเป็นทานจนหมดโลกก็ตาม 4.คนไทยทั้ง 60 กว่าล้านคนที่ทองคำและดอลล่าร์ในคลังหลวงคุ้มครองไว้ มี"พระภิกษุสงฆ์"ถึงกว่า 300,000 รูป การบริจาคช่วยชาติ จึงเท่ากับได้ถวาย"อภิมหาสังฆทาน"ในส่วนแห่ง"ชีวิต"และ"ปัจจัยสี่"พระสงฆ์ถึงสามแสนรูปโดยอัตโนมัติ 5.ในพระสงฆ์ 300,000 กว่ารูปนั้น มีพระ"อริยะ"ตั้งแต่โสดาบัน,สกิทาคามี,อนาคามีและพระอรหันตเจ้าอยู่กี่องค์ จะนับด้วยจำนวนสิบหรือร้อยองค์ การบริจาคช่วยชาติ ก็เท่ากับได้ถวายสังฆทานในพระอริยเจ้านับเป็นสิบเป็นร้อยองค์แบบรวดเดียวและเบ็ดเสร็จในครั้งเดียว 6.ก็ในประเทศไทยทั้งหมดนั้น มีวัดรวมกันกว่า 20,000 กว่าวัด มีพุทธสถานสำคัญ โดยที่หลายๆแห่ง ก็มีประวัติว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยเสด็จมาด้วยพระองค์เอง รวมไปถึงลานพระเจดีย์พระบทพระบาทพระธาตุพระพุทธรูปอยู่นับเป็นร้อยๆแห่ง การบริจาคช่วยชาติเพียงที่เดียว ก็เท่ากับเป็นการปกป้องรักษาและถวายทานที่เป็นส่วนแห่ง"เสนาสนทาน"และ"วิหารทาน" ,"ธรรมทาน" ตลอดจน"สังฆทาน"ในทุกวัดรวดเดียวทั้งประเทศ ใครจะไปคำนวนอานิสงส์ในครั้งนี้ได้ การ"ช่วยชาติ"ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนเป็นการบำเพ็ญมหาทานบารมีแบบ"ครอบประเทศ" ซึ่งเป็นการ"ช่วยโลก"แบบ"เหมาหมด" ไม่มีส่วนเหลือ โบสถ์ทุกโบสถ์ วิหารทุกวิหาร กุฏิทุกกุฏิ พระพุทธรูปทุกๆองค์ที่มีนับแสนนับล้านหรือสิบๆล้าน ไม่ว่าจะอยู่ที่วัดไหน อารามไหน หรือสถานที่แห่งใดก็ตาม พระทุกรูป ไม่ว่าจะเป็นสมมุติสงฆ์หรืออริยสงฆ์ คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว ล้วนตั้งอยู่บน"ฐานบุญ" คือ "แผ่นดินไทย" ที่คงอยู่ได้ เพราะเหตุแห่งการ"ช่วยชาติ"นี้หมดทั้งสิ้น ที่สุด....แม้สักเม็ดฝุ่นเม็ดทรายที่สุดจะคณานับได้ในแว่นแคว้นแห่งสยามประเทศที่มีอยู่กว่า 500,000 ตารางกิโลเมตรนั้น ที่จะหลงรอดในอันที่จะไม่ถูกเมตตามหาบารมีของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนนี้โอบอุ้มคุ้มครองไว้ทั้งหมด ก็หามีไม่เลยแม้สักอณูเดียวเม็ดเดียวอย่างแท้จริง.... ไม่จำเป็นจะต้องกล่าวในสิ่งที่"สูง"ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีกแล้ว อานิสงส์แห่งการ"ช่วยชาติ" ที่ประดิษฐานบวรพระพุทธศาสนาอย่างประเทศไทยที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนเมตตาพาดำเนินดังกล่าว จึง "ยิ่งใหญ่" และมีอานิสงส์ "สูงสุด" ไม่มีใดเทียมอย่างที่"พุทธวงศ์"ได้อรรถาธิบายขยายความอย่างพิศดารมาด้วยประการฉะนี้แลฯ 20060710171340(7).jpg "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 203.156.27.xx | เมื่อ: 27 สิงหาคม 2551 เวลา: 21:40:42 น. "ได้ยินชื่อท่าน(พระมหาบัว)มานานแล้วหลายสิบปี ท่านเป็นพระอรหันต์นะองค์นี้ ข้ารู้มานานแล้ว..!!!!" หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก พระนครศรีอยุธยา untitled.gif "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) IP : 58.8.129.xx | เมื่อ: 29 ธันวาคม 2551 เวลา: 9:27:00 น. ท้าวสักกเทวราชมาขอฟันหลวงตามหาบัว โถ อำนาจกิเลสไม่ใช่เล่นๆ นะ โธ่ๆ พิลึกจริงๆ ขึ้นครอบโลกธาตุให้สัตว์ทั้งหลายเกิดแก่เจ็บตายอยู่นี้มีแต่เรื่องกิเลสทั้งนั้น กิเลสเป็นเจ้าอำนาจ พอกิเลสขาดออกแล้วโล่งหมดเลย ไม่มีอะไรมาขวางใจ มีกิเลสเท่านั้นชี้นิ้วได้เลย มีกิเลสเท่านั้นมาขวาง ต้นไม้ภูเขาดินฟ้าอากาศไม่ขวาง กิเลสเท่านั้นขวางหัวใจสัตว์โลก เป็นก้างขวางคอตลอดเวลา เอาให้มันเต็มเหนี่ยวให้ได้มาพูดซิ พูดเฉยๆ พูดลมๆ แล้งๆ พระพุทธเจ้าไม่ใช่ศาสดาลมๆ แล้งๆ รู้จริงเห็นจริงทุกอย่าง สอนตรงไหนไม่ผิดๆ เลย วิธีสอนการแก้กิเลสก็ถูกต้องทุกอย่าง เรียกว่าสวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบๆ เวลาจะประกอบความเพียรกิเลสรุมเข้าไปแล้ว พอเราจะประกอบความเพียรชำระกิเลส กิเลสรุมเข้าไปแล้ว ความขี้เกียจขี้คร้านท้อแท้อ่อนแอเข้ามาพร้อมกันหมดเลย ฟาดลงหมอนหัวฟัดหมอนดังครอกๆ ตายทั้งเป็นพวกนี้ พวกตายทั้งเป็น กิเลสฟัดเอาๆ มันเป็นแต่อย่างนั้น เอาให้มันถึงพริกถึงขิงถึงเป็นถึงตายถึงกิเลสหงายมันถึงพูดได้เต็มปาก ถ้ากิเลสยังไม่หงายพูดไม่ได้นะมันตีปากเอา ถ้ากิเลสหงายแล้วตีปากกิเลสไปพร้อมๆ หมด ทีนี้พูดได้ พระพุทธเจ้าพูดได้ สามโลกธาตุสอนได้หมด นั่น เปิดหัวใจออกแล้วเปิดปากออกพร้อม เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหม เอ้อ มันแปลกประหลาดยังไงก็ไม่รู้ เมื่อวานได้พูดอยู่ ได้สองสามคืนผ่านมานี้ มันแปลก ไม่ใช่นั่งภาวนานะ เราหลับ ปรากฏว่าท้าวสักกเทวราชมาขอฟัน ฝันนะไม่ใช่นั่งภาวนา เรานอนหลับฝัน ฝันว่าท้าวสักกเทวราชลงมา เป็นหัวหน้าบริษัทบริวารลงมา คำฝันมันชัดเจนมากนะ แต่ฝันไม่ใช่ภาวนา มาขอฟันเราไปกราบไหว้บูชา ให้ทวยเทพทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา นี่คำฝันนะ ถ้าคำฝันโกหกเราก็โกหกด้วย เพราะฝันอย่างนั้นจริงๆ ถึงท้าวสักกเทวราช แต่ในใจของเราก็ปลงใจให้นะ ปลงใจให้ฟัน มันมีฟันอันหนึ่งที่มันโยกคลอนอยู่ยังไม่ถอน ปล่อยมันไว้นั้นละ พอดีท้าวสักกเทวราชมาขอฟัน เราในความรู้สึกในความฝันว่าได้ปลงใจให้ท้าวสักกเทวราช ฟันซี่นี้นะ พอตื่นเช้ามาฟันนี้หายเลย อันนี้เราก็อัศจรรย์เหมือนกัน ฟันที่ว่านี้มันโยกคลอนหายเลย ไม่ทราบหายไปไหน หลังจากฝันมาแล้วหายเลย นี่เป็นเองนะ เราเป็นเอง ฝันเองจริงๆ ท้าวสักกเทวราชมาขอฟันนั้น คำฝันไม่ใช่ภาวนา มาขอฟันเราก็ปลงใจให้ท้าวสักกเทวราช พอตื่นนอนขึ้นมาฟันซี่นั้นหายจริงๆ ไม่มีเหลือเลย ที่มันโยกคลอนมันจะหลุดอยู่ จะปล่อยให้มันหลุดเองเราว่างั้น พอดีท้าวสักกเทวราชมาขอไป คำฝันก็สดๆ ร้อนๆ พอตื่นขึ้นมาฟันหาย หายจริงๆ มันก็แปลกนะ เป็นจริงๆ ก็มันเป็นกับเราเอง เราไม่ได้โกหกใคร โฮ้ เป็นอย่างนี้ก็เป็น พอตื่นนอนขึ้นมาฟันนี้หายแล้วไม่ทราบหายไปไหน คงเป็นท้าวสักกเทวราชเอาไป เอ้า ผิดก็ผิดผิดในคำฝันเป็นอะไรไป เราไม่ได้โกหก มันฝันว่างั้นเราก็พูดตามความฝัน พอท้าวสักกเทวราชมาขอฟันเราปลงใจให้นะ พอตื่นนอนขึ้นมาฟันซี่นี้หายเลย ที่มันโยกคลอนหาย หายเงียบเลย ได้สองสามวันนี้ เอ้อ อันนี้ก็แปลกอยู่ มันแปลกเราก็บอกว่าแปลก มันฝันไปอย่างนั้น ฝันว่าท้าวสักกเทวราชพร้อมกับบริษัทบริวารมา ไม่ใช่เรานั่งภาวนานะ ปรากฏมาจริงๆ คล้ายกับภาวนา แต่เวลานั้นมันฝันไม่ใช่ภาวนา มาขอฟัน พอตื่นนอนขึ้นมาฟันซี่นี้หายเลย หายเงียบ แต่คืนวันนั้นละ ไม่ทราบหายไปไหน คงไปแล้วละในคำฝันเรา ถ้าคำฝันโกหกเราก็โกหก พวกนี้ก็หูโกหกไปด้วยกันหมด มันแปลกอยู่นะ ตกลงฟันเราก็หายแต่คืนนั้นละ หายเงียบเลย ไม่ทราบไปไหน (ที่ท้าวสักกเทวราชมาขอฟันหลวงตาน่ะ ว่าเอาขึ้นไปให้ทวยเทพเขากราบไหว้บูชา ถ้าให้มนุษย์แล้วมันยุ่งก็เลยขอ) คำฝันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็พูดอย่างนั้น ท้าวสักกเทวราชว่าถ้าให้มนุษย์มันยุ่ง เราพูดตามความฝัน คำฝันว่าไงเราก็พูดว่างั้น ไม่ใช่เป็นความรู้ทางด้านภาวนา มันฝัน แต่ว่าฟันซี่นี้หายจริงๆ นะ มันฝันอะไรก็ไม่รู้หายเงียบเลย (ท้าวสักกเทวราชสงสารพวกเรามวลมนุษย์ก็เลยเอาแต่ฟันไป ขอหลวงตาอยู่) แล้วตื่นขึ้นมาฟันหายเลย หายจริงๆ ก็พอดีกับที่เราปลงใจให้นะ ในคำฝันว่าปลงใจให้ พอตื่นขึ้นมาฟันซี่นั้นหายเลย มันโยกคลอนเราปล่อยให้มันหลุดเอง ถ้าจะไปถอนมันเกิดเรื่อง ให้มันหลุดเองเราก็เก็บไว้เลย เราคิดว่างั้น พอดีท้าวสักกเทวราชมาขอเลยหายเงียบไปเลยนี่ก็ดี เอ้อ มันมีหลายแบบนะ อันนี้เป็นคำฝัน แต่อันนี้มันหายจริงๆ คำฝันฝันว่าอย่างนั้น แล้วฟันซี่นี้ก็หายไปจริงๆด้วย DSC00630(1).gif www.patsiri.com

วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

enzymes by www.patsiri.com: ตำราหมอจ๋าย ใครๆรู้จักเมื่อ90 ปีมาแล้ว บัดนี้ ภัทร...

enzymes by www.patsiri.com: ตำราหมอจ๋าย ใครๆรู้จักเมื่อ90 ปีมาแล้ว บัดนี้ ภัทร...: "สมุนไพรเถาเอ็นอ่อน ตำหรับหมอจ๋ายby Pat John Pater Longsiri on Monday, February 21, 2011 at 12:04am เบาเทาอาการปวดเมื่อย ยาแคปซูลเถาเอ็นอ..."
พ่อจ๋าย สมัย ร 5 มีตำรายาสมุนไพรแพทย์แผนโบราณ ตามตำนานผสาน ด้วยคาถา มาจากขอม ต้องทำตามตำรา มียา เถาเอ็นอ่อน แก้บันเทา ปวดเมื่อยตามร่างกาย หายสบายดีเชิญดูได้ที่ www.patsiri.com

พ่อหมอ จ๋าย ท้งตำรามหาประโยชน์ โภชนา สมุนไพร

พ่อจ๋าย สมัย ร 5 มีตำรายาสมุนไพรแพทย์แผนโบราณ ตามตำนานผสาน ด้วยคาถา มาจากขอม ต้องทำตามตำรา มียา เถาเอ็นอ่อน แก้บันเทา ปวดเมื่อยตามร่างกาย หายสบายดี
เชิญดูได้ที่ www.patsiri.com

พ่อหมอ จ๋าย ท้งตำรามหาประโยชน์ โภชนา สมุนไพร

พ่อจ๋าย สมัย ร 5 มีตำรายาสมุนไพรแพทย์แผนโบราณ ตามตำนานผสาน ด้วยคาถา มาจากขอม ต้องทำตามตำรา มียา เถาเอ็นอ่อน แก้บันเทา ปวดเมื่อยตามร่างกาย หายสบายดี
เชิญดูได้ที่ www.patsiri.com

พ่อหมอ จ๋าย ท้งตำรามหาประโยชน์ โภชนา สมุนไพร

พ่อจ๋าย สมัย ร 5 มีตำรายาสมุนไพรแพทย์แผนโบราณ ตามตำนานผสาน ด้วยคาถา มาจากขอม ต้องทำตามตำรา มียา เถาเอ็นอ่อน แก้บันเทา ปวดเมื่อยตามร่างกาย หายสบายดี
เชิญดูได้ที่ www.patsiri.com

กวาวเครือขาว พ่อหมอ จ๋าย ท้งตำรามหาประโยชน์ โภชนา สมุนไพร

พ่อจ๋าย สมัย ร 5 มีตำรายาสมุนไพรแพทย์แผนโบราณ ตามตำนานผสาน ด้วยคาถา มาจากขอม ต้องทำตามตำรา มียา เถาเอ็นอ่อน แก้บันเทา ปวดเมื่อยตามร่างกาย หายสบายดี
เชิญดูได้ที่ www.patsiri.com

พ่อหมอ จ๋าย ท้งตำรามหาประโยชน์ โภชนา สมุนไพร

พ่อจ๋าย สมัย ร 5 มีตำรายาสมุนไพรแพทย์แผนโบราณ ตามตำนานผสาน ด้วยคาถา มาจากขอม ต้องทำตามตำรา มียา เถาเอ็นอ่อน แก้บันเทา ปวดเมื่อยตามร่างกาย หายสบายดี
เชิญดูได้ที่ www.patsiri.com

พ่อหมอ จ๋าย ท้งตำรามหาประโยชน์ โภชนา สมุนไพร

พ่อจ๋าย สมัย ร 5 มีตำรายาสมุนไพรแพทย์แผนโบราณ ตามตำนานผสาน ด้วยคาถา มาจากขอม ต้องทำตามตำรา มียา เถาเอ็นอ่อน แก้บันเทา ปวดเมื่อยตามร่างกาย หายสบายดี
เชิญดูได้ที่ www.patsiri.com

พ่อหมอ จ๋าย ท้งตำรามหาประโยชน์ โภชนา สมุนไพร

พ่อจ๋าย สมัย ร 5 มีตำรายาสมุนไพรแพทย์แผนโบราณ ตามตำนานผสาน ด้วยคาถา มาจากขอม ต้องทำตามตำรา มียา เถาเอ็นอ่อน แก้บันเทา ปวดเมื่อยตามร่างกาย หายสบายดี
เชิญดูได้ที่ www.patsiri.com

พ่อหมอ จ๋าย ท้งตำรามหาประโยชน์ โภชนา สมุนไพร

www.patsiri.com for human health at 028107832




for dog health at 024639283-4

mohjai my father


ดีใจประเทศไทยใจกว้าง ดังไปทั่วโลก ไม่ต้องพึ่งฝรั่ง นำเข้ายาสามัญ ทันเหตุการณ์ ตั้งกรมแพทย์แผนทางเลือก เป็นที่ยอมรับถูกต้องตามกฎหมายเสียที ที่คนไทย มีทางเลือก จะทาน ยา รักษา ทางพลังจิต เรียกสมาธิ บำบัด เป็นหัด อีสุกอีใส อีดำ อีแดง กินสมุนไพร ไทย-จีน ได้หมอไม่ว่าอะไร ผิดกับสมัย เมื่อ 40-50 ปี หมอเก่งหมอดี ต้องเอาแบบฝรั่ง ถึงจะดังดีเด่น ห้ามกินยา สมุนไพร ต้องกินยา ฝรั่ง ตามตำรากรีก ที่ได้เล่าเรียนมา ห้ามกินยา พระหัวเกรียน ที่ได้เล่าเรียนสืบทอดมาจาก ท่านชีวก หมอของสมเด็จพระศาสดา มาตอนรัชกาล ที่ 6 เหมือนตกนรกหมอไทยแผนโบราณ ที่เรีกขานกันทั้ง หมอจีน หมอไทย ห้ามเอามาใช้รักษาโรค ไม่เป็นที่ยอมรับ ของแพทย์แผนปัจจุบัน จนถึงวันนี้ ต้องขอสวัสดี กระทรวงสาธารณสุข ช่วยทุกข์ของชาวบ้าน เช่นโรงพยาบาล อภัยภูเบศ แห่งรั้วประเทศ ภาคตะวันออกไกล ยังมีโพธิ์ใหญ่ ศรีมหาโพธิ์ตระกาล ร้องกันให้ลั่นสมัยฉันเป็นเด็ก เมื่อ พศ 2497 โรงพยาบาลแห่งดีเอาดีจาก ท่านชีวก มรดก ทางยาแพทย์แผนโบราณ ใช้ มะขามป้อมแช่นำมูตเน่า เอาเป็น โปรไบโอติก มีแลคโตบาซีลัส คนสมัยนั้นฉลาดกว่าเยอะเลย มา ทำให้พระฉันเป้นนำ ปานะ ได้ในยามวิกาล ขอเชิญทุกท่าน ไปรักษา ดูความก้าวหน้าได้ที่ โรงพยาบาล อภัยภูเบศ รพใประจำจังหวัดปราจีนบุรี ฉันเองก็มีวิธี ทำยาสมุนไพร ทะเบียน จี เอา เถาวัลย์เปรียง เถาเอนอ่อน โคคลาน ตามด้วยคาถา ปลุกเสก ทางสมาธิบำบัด สรรพคูณ ดีชมัด คนจน ปวดตามร่างกาย จดหมายมาหาฉัน เป็นคนแก่แล้ว ไม่ต้องการเงิน ให้เฉพาะคนจน คนรวยไม่เกี่ยว ต้องซื้อกล่องละ 500 บาท ติดต่อได้ที่ www.patsiri.com
028107832
www.patsiri.com
ปรุงยา เอาสมาธิ บำบัดช่วยขจัดโรค
อโรคะยาปรมาลาภา

enzymes by www.patsiri.com: ตำราหมอจ๋าย ใครๆรู้จักเมื่อ90 ปีมาแล้ว บัดนี้ ภัทร...

enzymes by www.patsiri.com: ตำราหมอจ๋าย ใครๆรู้จักเมื่อ90 ปีมาแล้ว บัดนี้ ภัทร...: "สมุนไพรเถาเอ็นอ่อน ตำหรับหมอจ๋ายby Pat John Pater Longsiri on Monday, February 21, 2011 at 12:04am เบาเทาอาการปวดเมื่อย ยาแคปซูลเถาเอ็นอ..."


ดีใจประเทศไทยใจกว้าง ดังไปทั่วโลก ไม่ต้องพึ่งฝรั่ง นำเข้ายาสามัญ ทันเหตุการณ์ ตั้งกรมแพทย์แผนทางเลือก เป็นที่ยอมรับถูกต้องตามกฎหมายเสียที ที่คนไทย มีทางเลือก จะทาน ยา รักษา ทางพลังจิต เรียกสมาธิ บำบัด เป็นหัด อีสุกอีใส อีดำ อีแดง กินสมุนไพร ไทย-จีน ได้หมอไม่ว่าอะไร ผิดกับสมัย เมื่อ 40-50 ปี หมอเก่งหมอดี ต้องเอาแบบฝรั่ง ถึงจะดังดีเด่น ห้ามกินยา สมุนไพร ต้องกินยา ฝรั่ง ตามตำรากรีก ที่ได้เล่าเรียนมา ห้ามกินยา พระหัวเกรียน ที่ได้เล่าเรียนสืบทอดมาจาก ท่านชีวก หมอของสมเด็จพระศาสดา มาตอนรัชกาล ที่ 6 เหมือนตกนรกหมอไทยแผนโบราณ ที่เรีกขานกันทั้ง หมอจีน หมอไทย ห้ามเอามาใช้รักษาโรค ไม่เป็นที่ยอมรับ ของแพทย์แผนปัจจุบัน จนถึงวันนี้ ต้องขอสวัสดี กระทรวงสาธารณสุข ช่วยทุกข์ของชาวบ้าน เช่นโรงพยาบาล อภัยภูเบศ แห่งรั้วประเทศ ภาคตะวันออกไกล ยังมีโพธิ์ใหญ่ ศรีมหาโพธิ์ตระกาล ร้องกันให้ลั่นสมัยฉันเป็นเด็ก เมื่อ พศ 2497 โรงพยาบาลแห่งดีเอาดีจาก ท่านชีวก มรดก ทางยาแพทย์แผนโบราณ ใช้ มะขามป้อมแช่นำมูตเน่า เอาเป็น โปรไบโอติก มีแลคโตบาซีลัส คนสมัยนั้นฉลาดกว่าเยอะเลย มา ทำให้พระฉันเป้นนำ ปานะ ได้ในยามวิกาล ขอเชิญทุกท่าน ไปรักษา ดูความก้าวหน้าได้ที่ โรงพยาบาล อภัยภูเบศ รพใประจำจังหวัดปราจีนบุรี ฉันเองก็มีวิธี ทำยาสมุนไพร ทะเบียน จี เอา เถาวัลย์เปรียง เถาเอนอ่อน โคคลาน ตามด้วยคาถา ปลุกเสก ทางสมาธิบำบัด สรรพคูณ ดีชมัด คนจน ปวดตามร่างกาย จดหมายมาหาฉัน เป็นคนแก่แล้ว ไม่ต้องการเงิน ให้เฉพาะคนจน คนรวยไม่เกี่ยว ต้องซื้อกล่องละ 500 บาท ติดต่อได้ที่ www.patsiri.com
028107832
www.patsiri.com
ปรุงยา เอาสมาธิ บำบัดช่วยขจัดโรค
อโรคะยาปรมาลาภา